“การนวด” ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญกับนักกีฬา และผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็กลับยังรู้สึกว่าไม่จำเป็น และมองเป็นเรื่องเสียเวลา จึงทำให้ร่างกายต้องตกอยู่ในความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้ ความเสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับเมื่อเราไม่ให้ความสำคัญกับการนวดกล้ามเนื้อนั้น แบ่งได้ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่
1. เสี่ยงบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อไม่ยอมนวดก่อนเล่นกีฬา
การนวดก่อนทำกิจกรรมไม่ว่าจะแข่งขันกีฬา หรือออกกำลังกายฝึกซ้อมทั่วไป ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเด็ดขาด เสมือนเป็นการ Warm Up ร่างกายให้พร้อมกับการออกแรง การเคลื่อนไหว และใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ โดยหากเราออกกำลังกายโดยไม่ยอมนวดกล้ามเนื้อก่อนนั้น ผลเสียที่จะเกิดขึ้นได้ก็คือ กล้ามเนื้อจะไม่ตื่นตัวมากพอ ไม่พร้อมกับการออกแรง และสุดท้ายก็จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ทั้งนี้ สำหรับนักกีฬานั้น การนวดก่อนเกมจะเน้นไปที่กล้ามเนื้อมัดสำคัญที่ใช้งานเยอะที่สุด เช่น นักวิ่ง ก็จะต้องเน้นนวดบริเวณขาเป็นหลัก เพื่อให้กล้ามเนื้อขาตื่นตัว พร้อมสำหรับการออกแรงได้แบบที่ไม่เมื่อยล้า มีความยืดหยุ่นของข้อต่อมากที่จะไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย เพราะถ้าเจ็บขึ้นมาระหว่างแข่งขัน นั่นอาจหมายถึงเราจะแพ้ทันที
2. เสี่ยงหมดแรงไว แข่งได้ไม่เต็มที่ เมื่อไม่มีการนวดระหว่างเกม
นักฟุตบอลช่วงพักครึ่ง จะได้รับการนวดจากนักกายภาพบำบัดของทีม นักมวยเองก็เช่นกันในระหว่างพักยกเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ก็ยังต้องได้รับการนวด ลูบ บีบ เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อระหว่างเกมอยู่ตลอดทุกยก ตัวอย่างการนวดระหว่างเกมนี้ ถือเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เราเห็นถึงความสำคัญของการนวดที่มีต่อการแข่งขันมากขึ้น และในความเป็นจริงนั้น ต่อให้เป็นระหว่างการฝึกซ้อม เมื่อมีช่วงพัก ร่างกายก็ควรได้รับการนวดระหว่างซ้อมด้วยเช่นกัน โดยหากเรามองข้ามการนวดระหว่างฝึก ระหว่างแข่งไปนั้น ผลเสียที่จะเกิดขึ้นก็คือ กล้ามเนื้อจะเหนื่อยล้าอย่างรวดเร็ว ทำให้หมดแรง ใช้แรงได้ไม่เต็มที่ อาจมีอาการปวดแทรกเกิดขึ้นระหว่างฝึก หรืออาจเป็นคะคริวในระหว่างแข่งขันได้ ทั้งนี้ เพราะการนวดระหว่างเกมนั้น จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ออกซิเจนถูกส่งไปเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ที่ใช้แรงได้มากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายผ่อนคลาย และมีแรงคงที่ตลอดระยะเวลาแข่งขันหรือตลอดการฝึก
3. เสี่ยงฟื้นตัวกลับมาฟิตช้า ถ้าไม่นวดหลังจบการฝึกซ้อม
หลังจากการฝึกซ้อมแบบเต็มโปรแกรม หรือการแข่งขันกีฬาอันดุเดือด กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายเราจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงที่สุด เพราะถูกใช้งานอย่างเต็มที่ หากเราไม่ให้ความสำคัญกับการนวดผ่อนคลายหลังจบเกม หรือจบการฝึกซ้อมล่ะก็ เราอาจจะมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นได้ หรือถ้าไม่บาดเจ็บ ก็จะฟื้นตัวกลับมาได้ช้ากว่าปกติ ซึ่งความฟิตที่กลับมาช้าเกินไปนั้น นอกจากจะส่งผลต่อวินัยในการฝึกซ้อมที่ทำได้ไม่เต็มที่แล้ว หากเรากลับมาซ้อมในสภาพร่างกายที่ยังไปฟื้นตัวกลับมาเต็มที่ โอกาสบาดเจ็บระหว่างซ้อมก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ ทั้งนี้ การนวดหลังเกมการแข่งขัน หรือการฝึกซ้อมนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และขจัดกรดแลคติกออกจากร่างกาย ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายฟื้นฟูกลับมาฟิตได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงเกิดการบาดเจ็บได้มากขึ้นนั่นเอง
ก่อน-ระหว่าง-หลัง การฝึกและการแข่งขันกีฬานั้น “การนวด” ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่นักกีฬาทุกคนต้องใส่ใจ และทำให้ถูกต้องมากที่สุด เพื่อช่วยรักษาสภาพร่างกาย สภาพความพร้อม ความฟิตของกล้ามเนื้อเอาไว้ให้ได้ยาวนานต่อเนื่องที่สุด ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อ Performance ในการออกกำลังกายและการแข่งขัน ทั้งนี้ สำหรับนักกีฬาอาชีพนั้น โดยมากก็จะมีทีมเวชศาสตร์คอยดูแลเรื่องการนวดโดยตรงอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นนักกีฬาอาชีพ แต่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ก็สามารถนวดด้วยตัวเองได้ ผ่านอุปกรณ์การนวดหลากหลายชนิด อาทิ Foam Roller, ลูกบอลนวดเฉพาะจุด หรือว่าจะเป็นปืนนวด ก็ได้ ฯลฯ ซึ่งการนวดก็จะไม่ได้กินเวลานานเท่าไร เพียงแค่ 15-20 นาที ก่อนฝึกซ้อม 5-10 นาทีระหว่างฝึกซ้อม และ 15-20 นาที ภายใน 2 ชั่วโมงหลังฝึกซ้อมเท่านั้น ก็เพียงพอให้เรามีสภาพร่างกายที่พร้อมสำหรับการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสบาดเจ็บที่จะมาขัดขวางวินัยในการฝึกซ้อมของเราลงไปได้มากเลยทีเดียว