โดยทั่วไปในการฝึกซ้อม ในการออกกำลังกายนั้น ตามอุดมคติที่คนส่วนใหญ่เชื่อมั่นมักจะเป็นการฝึกที่เน้นหนักไปทางด้านการสร้างกล้ามเนื้อเป็นสำคัญ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ความหมายของการมีร่างกายที่สมบูรณ์ ที่สามารถแสดงศักยภาพร่างกายออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆ การทำกิจกรรมนั้น ไม่ได้มีแต่กล้ามเนื้อเท่านั้นที่สำคัญ แต่ยังมีอีกหลายๆ ปัจจัยที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฝึกซ้อมให้มีผลลัพธ์เกิดขึ้น และหนึ่งในนั้นคือ “ความคล่องแคล่วว่องไว”
ความคล่องแคล่วว่องไว ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของสมรรถภาพร่างกายที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป หรือว่านักกีฬาก็แล้วแต่ เพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตำแหน่งร่างกาย การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ซึ่งสำหรับนักกีฬาแล้ว ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบเปลี่ยนทิศทางนั้น ใครทำได้ดีกว่าก็ถือว่ามีโอกาสได้รับชัยชนะมากกว่า ในขณะเดียวกันกับคนธรรมดาทั่วไป การที่ร่างกายขาดความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหว ก็จะส่งผลต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ขาดประสิทธิภาพ หรือไม่ก็อาจเป็นอันตรายที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่ายมากขึ้น เพราะเมื่อร่างกายไม่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวแบบเปลี่ยนทิศทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นการเอี้ยวตัว การวิ่ง หรือการทำกิจกรรมเล่นกีฬาในวันพักผ่อน ก็จะเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย
ทั้งนี้ ในการจะฝึกให้ร่างกายเกิดความคล่องแคล่วว่องไวขึ้นได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบอยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความเร็วในการเคลื่อนที่ ความยืดหยุ่นอ่อนตัว ตลอดจนการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อและการทรงตัว ฯลฯ ซึ่งองค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้ แสดงให้เราเห็นถึงเหตุผลที่ชัดเจนว่า ทำไมนักกีฬา หรือการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาศักยภาพร่างกาย จึงไม่สามารถฝึกเฉพาะแค่เพียงการสร้างกล้ามเนื้ออย่างเดียวได้ แต่ต้องฝึกในส่วนอื่นๆ ประกอบร่วมกันไปด้วย จึงจะทำให้ร่างกายเกิดการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบ และนำไปสู่การแสดงศักยภาพของทักษะร่างกายต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพได้มากที่สุด
สำหรับแนวทางในการฝึกซ้อมเพื่อเสริมความคล่องแคล่วว่องไว มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ การฝึกการเคลื่อนไหวอย่างถูกต้องซ้ำๆ และเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยปรับเปลี่ยนไปตามท่าทางการเคลื่อนไหว แต่ก่อนที่จะทำการฝึกได้ ก็จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของกล้ามเนื้อด้วย เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงพอที่จะรองรับการเคลื่อนไหวแบบรวดเร็วได้ นอกจากนั้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะส่งผลให้การฝึกความคล่องแคล่วว่องไวได้ผลโดยตรงก็คือ “ระยะเวลาที่ใช้ในการฝึกซ้อม” ที่ต้องจัดให้เหมาะสมตามสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล โดยต้องให้ฝึกนานพอที่จะให้ได้ผล แต่ต้องไม่หนักเกินไปจนทำให้สมรรถภาพร่างกายเสื่อมลง หรือเกิดอาการบาดเจ็บ
ร่างกายที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง แต่ปราศจากการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว คือร่างกายที่ไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังก่อให้เกิดโอกาสบาดเจ็บได้ง่ายมากขึ้นด้วย ดังนั้น เพื่อให้การฝึกซ้อมพัฒนาศักยภาพร่างกายของเราให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด การให้ความสำคัญกับการฝึกความคล่องแคล่วว่องไว จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามหรือปล่อยผ่านเลย