ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา หรือคนที่มีเป้าหมายในการออกกำลังกาย แน่นอนว่า “การฝึกหนัก” เป็นสิ่งที่ทุกคนผู้มีเป้าหมายมักทุ่มเทให้เสมอ เพื่อให้ก้าวไปสู่ผลลัพธ์การพัฒนาศักยภาพร่างกายอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ทั้งนี้ การฝึกซ้อมอย่างหนัก จะไม่สามารถพาร่างกายเราให้ไปถึงจุดที่พัฒนาศักยภาพให้แกร่งขึ้นได้เลย หากเรายังทำ 3 เรื่องสำคัญที่ต้องแก้ไข ดังต่อไปนี้
1. ยังเคลื่อนไหวท่าทางในการฝึกซ้อมแบบผิดๆ
ซ้อมหนักไปก็เท่านั้น ถ้าท่าทางในการฝึกซ้อมออกกำลัง ไม่ได้เป็นไปอย่างถูกต้อง เหมือนกับที่โค้ชชอบแนะนำผู้ที่ออกกำลังกายใหม่ๆ ว่า “ยกเหล็กแบบนี้กล้ามไม่ขึ้นหรอก” เพราะเรายกผิดวิธี เราตั้งใจจะฝึกกล้ามเนื้อส่วนหนึ่ง แต่กลับไปออกแรงโดยใช้กล้ามเนื้ออีกส่วนหนึ่ง ก็ทำให้กล้ามเนื้อเป้าหมายไม่ได้รับการฝึก ผลลัพธ์ที่ต้องการก็ไม่เกิดขึ้น รวมถึงการเคลื่อนไหวท่าทางที่ไม่ถูกต้องนั้น ยังเสี่ยงทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้อีก ดังนั้น ยิ่งหักโหมฝึกซ้อมหนักโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องในการเคลื่อนไหวฝึกซ้อม ก็มีแต่จะยิ่งทำให้เราห่างไกลออกจากเป้าหมายไปเรื่อยๆ ซึ่งถึงขั้นอาจจะทำให้เหนื่อยเปล่าก็ได้ เพราะหากเจ็บเข้าล่ะก็ เราอาจกลับมาฝึกไม่ได้เลยอีกนาน
2. ยังออกกำลังกายฝึกซ้อมตามใจ ไม่ใช่ตามโปรแกรมที่ถูกต้อง
หลายคนฝึกซ้อมหนักตามใจตัวเอง วันไหนอยากซ้อมหนักก็ซ้อม วันนี้อยากเล่นส่วนนี้ก็เล่น รู้สึกถนัดที่จะเล่นแบบไหน ก็เล่นไปแบบนั้น ฯลฯ การฝึกซ้อมลักษณะนี้ จะไม่ส่งผลทำให้เกิดผลลัพธ์ได้อย่างที่ต้องการ เพราะการฝึกซ้อมหนักวันเดียว ไม่เพียงพอต่อการทำให้ร่างกายพัฒนาได้ เนื่องจากร่างกายต้องการความเข้มข้นในการออกกำลังกายที่ต่อเนื่องมากพอ ดังนั้น การวางโปรแกรมฝึกซ้อมที่สม่ำเสมอ แม้ไม่ได้หนักมาก ก็ยังตอบโจทย์มากกว่า ในขณะเดียวกัน ก็จำเป็นจะต้อง “ฝึก” ให้ครบทุกส่วนกล้ามเนื้อสำคัญด้วย ไม่ใช่ทุ่มเทเพียงแค่ส่วนใดส่วนเดียวเป็นพิเศษ จริงอยู่ที่กีฬาหลายชนิด อาจเน้นความแข็งแกร่งของร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ในภาพรวมแล้ว ทุกส่วนของร่างกายจำเป็นต้องได้รับการฝึกทั้งหมด เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ดี แล้วจึงค่อยเน้นที่ส่วนสำคัญให้มากขึ้น นั่นเองจึงทำให้ “โปรแกรมการฝึกซ้อม” เป็นสำคัญมาก ซึ่งโปรแกรมนั้น ก็ควรจะต้องออกแบบมาเฉพาะแต่ละบุคคล เพื่อให้สอดคล้องต่อพื้นฐานร่างกายของแต่ละคนด้วย
3. ยังละเลยเรื่องโภชนาการและการบำบัดฟื้นฟู
ผลลัพธ์ในการพัฒนาศักยภาพร่างกาย ไม่ได้อาศัยเพียงแค่การฝึกอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องอาศัยโภชนาการที่ถูกต้องควบคู่ไปด้วย กล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้น รูปร่างจะสมส่วนมากขึ้นได้ ก็ด้วยเพราะเราได้รับโภชนาการที่ถูกต้องเหมาะสมด้วย ในขณะเดียวกัน การ Warm Up, Cool Down, การนวด ทำกายภาพบำบัด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะช่วยฟื้นฟูให้ร่างกายสามารถฝึกซ้อมได้อย่างต่อเนื่อง ปลอดภัยจากการบาดเจ็บ ซึ่งหากเรายิ่งฝึกซ้อมหนัก แต่ไม่ใส่ใจกับการบำบัดฟื้นฟูเลย สุดท้ายปลายทางเราก็จะไปหยุดอยู่ที่อาการบาดเจ็บ ต้องงดซ้อม ทำให้ผลลัพธ์ไม่เกิด และท้อแท้ล้มเลิกเป้าหมายในการฝึกซ้อมไปในที่สุด
การซ้อมหนักเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างผลลัพธ์ของการพัฒนาศักยภาพร่างกายให้เกิดขึ้นได้เร็วก็จริง แต่ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญหลายๆ อย่างรวมกัน โดยต้องเป็นการฝึกที่ถูกต้อง ตามโปรแกรมที่เหมาะสมกับร่างกายเราจริงๆ และการฝึกซ้อมต้องเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมในทุกท่วงท่า รวมถึงต้องควบคู่กันไปกับการดูแลโภชนาการและบำบัดฟื้นฟูร่างกายด้วย ดังนั้น อย่ารีบร้อนเกินไปเพื่อจะทำให้ตัวเองไปถึงเป้าหมายของการฝึก ด้วยการ “เร่งฝึกหนักอย่างเดียว” โดยขาดความใส่ใจในองค์ประกอบอื่นๆ ที่สำคัญ เพราะนอกจากจะทำให้ไม่ได้ผลแล้ว ยังอาจทำให้เราบาดเจ็บ และดับฝันของเราลงได้อีกด้วย