ไม่ใช่เพียงแค่ทักษะที่เก่งกาจอย่างเดียว ไม่ใช่เพียงแค่รูปร่างที่แข็งแรงกว่า ได้เปรียบกว่าเท่านั้น ที่จะทำให้นักกีฬาคนหนึ่งก้าวไปถึงเส้นชัยที่เป็นเป้าหมายได้ เพราะตลอดเส้นทางอาชีพของนักกีฬานั้น “ทัศนคติ” คือสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยประคับประคองไม่ให้ออกนอกเส้นทาง และบรรจุผลลัพธ์อย่างที่ตั้งใจได้ ทั้งนี้ 3 ความคิดสำคัญที่นักกีฬาทุกคนควรปลูกฝังให้มีในตัวเอง เพื่อความสำเร็จที่ฝัน ได้แก่
1. พร้อมและเต็มใจเสมอในการยอมรับการเปลี่ยนแปลง
ในสนามแข่งขัน นักกีฬาต้องพร้อมเสมอ ทั้งกายและใจ ซึ่งไม่ว่าระหว่างการแข่งขัน สถานการณ์จะพลิกล็อก เปลี่ยนแปลง มีอุปสรรคเข้ามาขวางแค่ไหน ก็ต้องพร้อมรับมือ แล้วแก้ไข มีไหวพริบกับการเปลี่ยนแปลงนั้นเสมอ เพราะเพียงเสี้ยววินาทีที่หงุดหงิด ลังเล รู้สึกไม่ได้ดังใจ และไม่พยายามจะยอมรับเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก็อาจทำให้เราพ่ายแพ้ หรือเสียเปรียบได้ในทันที ทั้งนี้ การเต็มใจรับการเปลี่ยนแปลง และการเตรียมความพร้อมนั้น ก็ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในสนามแข่ง
แต่ทุกๆ วันในชีวิต กิจวัตรการฝึกซ้อม ที่เปลี่ยนแปลงได้เสมอ จากคนรอบข้าง สถานการณ์รอบข้าง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากงาน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสภาพร่างกายตามอายุ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจ ซึ่งนักกีฬาต้องบาลานซ์ให้ดี รักษาสมดุลระหว่างชีวิตนักกีฬากับชีวิตส่วนตัวให้ได้ พร้อมเสมอที่จะปรับตัวกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ยังคงรักษาวินัยในการฝึกซ้อมไปได้ตลอดทางจนเกิดกลายเป็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
2. เคารพ รับฟัง ความคิดเห็นของโค้ช และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่
นักกีฬาที่ไม่เชื่อโค้ช มีโอกาสล้มเหลวได้ค่อนข้างมาก เพราะชีวิตของนักกีฬานั้น ล้วนต้องผูกพันกับโค้ชเป็นสำคัญ เหมือนกับเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยกันสร้างผลลัพธ์ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งนี้ หลายๆ ครั้งของจังหวะชีวิต นักกีฬาอาจต้องมีการเปลี่ยนโค้ช ได้เจอกับโค้ชหลายคน หลากหลายวิชาความรู้ หลากหลายประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งบ่อยความรู้ต่างๆ ก็อาจมีความขัดแย้งกันเอง หรือบางทีตัวนักกีฬาอาจมีความรู้สึกว่า “โค้ชไม่เก่ง” ไม่ว่าจะด้วยโค้ชอาจไม่เคยเป็นแชปม์มาก่อน หรือดูแล้วไม่น่ามีศักยภาพร่างกายที่จะมาช่วยฝึกสอนเขาได้ ฯลฯ
อคติเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักกีฬาจำเป็นจะต้อง “ตัดทิ้งออกไปก่อน” เพราะเราต้องไม่ลืมว่า “โค้ช” กับ “นักกีฬา” เป็นคนละบทบาทหน้าที่กัน องค์ความรู้ของการเป็นโค้ชนั้น แตกต่างจากองค์ความรู้ของนักกีฬา ดังนั้น นักกีฬาจึงจำเป็นต้องเปิดใจ ไม่ปิดกั้น เพื่อรับฟังคำแนะนำทีดีที่มีประโยชน์ และทำให้เกิดรูปแบบของการอบรมฝึกซ้อม ที่ได้ประสิทธิภาพ อันนำไปสู่การวัดผล และการพัฒนาตัวเองได้อย่างแท้จริง
3. ยอมรับความพ่ายแพ้ และไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค
แชมป์ไร้พ่ายไม่มีอยู่จริง เพราะหลังจากการเป็นแชมป์ผ่านไป สุดท้ายไม่ช้าก็เร็วเราก็จะพบกับความพ่ายแพ้ในที่สุด บนเส้นทางอาชีพของการเป็นนักกีฬา ไม่มีใครไม่เคยแพ้ แต่การพ่ายแพ้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำให้เราหมดโอกาสชนะ กลับกันเลยเพราะความพ่ายแพ้นั้นต่างหาก ที่ผลักดันทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น รู้จักคู่แข่งมากขึ้น รู้ว่าต้องพยายามมากขึ้นเท่าไร อย่างไร เพื่อไปให้ถึงเส้นชัยให้ได้ ดังนั้น หากเราอยากที่จะประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพนักกีฬา เราจึงต้องเปิดใจยอมรับความพ่ายแพ้ เพื่อเป็นด่านแรกในการทำให้เรายอมรับข้อบกพร่องตัวเอง ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไข แต่เราก็ต้องไม่ยอมแพ้เด็ดขาด และพยายามพัฒนาศักยภาพความสามารถตัวเองไปเรื่อยๆ ให้แข็งแกร่งขึ้น เก่งขึ้น ถึงจะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ เพราะสุดท้าย คนเดียวที่จะไปถึงเส้นชัยได้ ก็คือคนที่ไม่ยอมแพ้เท่านั้น
ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่นักกีฬา แต่เป็นเพียงแค่ผู้มีความตั้งใจ มีเป้าหมายในการออกกำลังกาย เพื่อพัฒนารูปร่าง และศักยภาพร่างกายของตัวเอง 3 ทัศนคติดังกล่าว ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้พาเราให้บรรลุเป้าหมายได้เช่นกัน รวมถึงการดำเนินชีวิตประจำวัน การทำงานในทุกๆ วันด้วย เพราะ การที่เราเตรียมพร้อม ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ และไม่ยอมแพ้ในทุกๆ จังหวะของชีวิตนั้น จะทำให้เรายังคงอยู่ได้ในเส้นทางที่ทอดยาวไปสู่เป้าหมายเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทางได้ในที่สุด