บนเส้นทางของการฝึกซ้อม ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา หรือเป็นเพียงแค่ผู้ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพร่างกายตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้น เราต่างมีความรับผิดชอบมากมายที่ต้องแบกไว้บนบ่า ซึ่งถ้าละเลยปล่อยผ่านเมื่อไร ก็ไม่มีทางเลยที่จะไปถึงเป้าหมายได้ และต่อจากนี้ไป คือ 4 สิ่งสำคัญที่ต่อให้เรามีทักษะ พรสวรรค์ เก่งกาจแค่ไหน ก็จะไม่มีทางพาตัวเองไปถึงเส้นชัยได้เลย ถ้าขาดสิ่งเหล่านี้
1. ขาดแรงจูงใจในการฝึกซ้อม
คนๆ หนึ่งจะลุกขึ้นมาฝึกซ้อมทุกวัน ออกกำลังกายทุกวันได้ เป็นแรมเดือนแรมปีนั้น แน่นอนว่าจะต้องมี “แรงจูงใจ” เป็นสิ่งผลักดัน ซึ่งเราอาจนับได้ว่านั่นคือ “เป้าหมายหลัก” ที่เราจะต้องก้าวไปให้ถึง แต่ทั้งนี้ ระหว่างทางของการไปสู่เป้าหมายนั้น อาจมีหลายครั้งที่เราเจออุปสรรคขัดขวาง ต้องอดทนกับระยะเวลาอันยาวนาน
จึงทำให้บางทีความเหนื่อยล้าก็บดบัง “เป้าหมาย” นั้นของเราไปได้ ทำให้แรงจูงใจในการฝึกซ้อมของเราหายไป นั่นเองทำให้สำหรับผู้ที่ต้องการไปให้ถึงเส้นชัย จึงต้อง “จุดไฟ” ในตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตัวเองมีแรงจูงใจอยู่เสมอ มองเห็นเป้าหมายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่บอบช้ำแค่ไหนก็ตาม เพื่อให้ยังคงมีความพยายามในฝึกซ้อมต่อไปได้ จนพาตัวเองไปถึงจุดหมายได้ในที่สุด
2. ขาดวินัยในการพัฒนาตัวเอง
การซ้อมหนักวันเดียว เดือนเดียว ปีเดียว ไม่เพียงพอที่จะสร้างรากฐานของศักยภาพร่างกายที่แข็งแกร่งคู่ควรกับตำแหน่งแชมป์ได้ เพราะร่างกายของคนเราเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการฝึกซ้อม ดูแล อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ถ้าคู่แข่งของเราซ้อมตลอดเวลา ก็แน่นอนว่า สำหรับการซ้อมบ้างไม่ซ้อมบ้างคงไม่มีทางทำให้เราสามารถชิงชัยชนะมาได้ ดังนั้น ถ้าอยากไปให้ถึงเส้นชัยที่ตั้งใจ การรักษาวินัยในการฝึกซ้อม พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นเสมอนั้นจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ เพื่อให้ร่างกายพร้อมมากขึ้น ก้าวข้ามขีดจำกัดตัวเองไปเรื่อยๆ จนสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ในที่สุด
3. ขาดโค้ชที่ดี ขาดความรู้ที่ถูกต้อง
เมื่อไม่มีโค้ชที่ดีแล้ว นักกีฬาก็เหมือนเสือที่ไร้เล็บ แต่ถ้ามีโค้ชที่ดีนั้น นักกีฬาก็เหมือนเสือที่ติดปีก ที่จะช่วยทำให้เราก้าวไปถึงเส้นชัยได้ง่ายมากขึ้น เพราะโค้ชคือผู้ที่จะทำให้เรา “ฝึกซ้อม” ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับตัวเรา และขุดเอาศักยภาพร่างกายที่แท้จริงของเราออกมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ในทำนองเดียวกันสำหรับคนที่ไม่ได้เป็นนักกีฬา โค้ชหรือผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำในการฝึกซ้อม ออกกำลังกายที่ถูกต้อง ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ที่แม้จะไม่ได้เป็นการฝึกตัวต่อตัว แต่เราก็จำเป็นต้องหา “องค์ความรู้ที่ถูกต้อง” มาใช้ในการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะการฝึกซ้อม ออกกำลังกายที่ไม่ผิด ไม่ถูกต้อง ถูกทาง จะไม่มีทางนำเราไปสู่ความสำเร็จได้เลย กลับกันที่จะสร้างความบอบช้ำ และการบาดเจ็บให้กับร่างกายได้อีกด้วย
4. ขาดสมดุลที่ดีในชีวิต
แม้การฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องจะเป็น “หัวใจสำคัญ” ในการพาให้เราบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ แต่การ “ฝึกซ้อมที่มากเกินไป” การตัดขาดจากชีวิตส่วนตัวที่เป็นปกติ ก็จะส่งผลทำให้ “ร่างกายและจิตใจเกิดความตึงเครียด” จนนำไปสู่ความเสื่อมถอย และอาการบาดเจ็บได้ในที่สุด ตราบที่เราไม่มีใจพร้อมในการฝึก ตราบที่เราไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตที่จะอุทิศไปกับการฝึกซ้อมเพื่อเป้าหมาย ตราบนั้นก็คงยากที่จะประสบความสำเร็จได้ ดังนั้น การรักษาสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตให้มีความสุข กับการฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่เหมาะสมถูกต้อง ไม่หักโหมเกินไปอย่างเต็มใจ จึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญบาลานซ์ให้ได้ เพื่อประคับประคองร่างกายและจิตใจให้มั่นคงอยู่ได้บนเส้นทางที่ทอดยาวไปจนกระทั่งถึงเส้นชัยที่เป็นเป้าหมาย
สำหรับนักกีฬา แนวคิดของการฝึกซ้อมเพื่อความสำเร็จนั้น แท้จริงแล้วอาจเปรียบได้ว่า เป็นการฝึกเพื่อเติม “สิ่งที่ขาดหายไป” ให้เรามีทักษะ มีศักยภาพร่างกาย มีสมรรถภาพร่างกายที่สมบูรณ์เพียงพอต่อการคว้าชัยชนะในการแข่งขัน เช่นเดียวกันกับ ผู้ที่มีเป้าหมายในการดูแลสุขภาพร่างกายตัวเอง พัฒนารูปร่างของตัวเอง ที่การออกกำลังกายนั้นก็เปรียบได้กับการเติมเต็ม “สิ่งที่ขาด” ให้มีมากขึ้น จนทำให้บรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพและร่างกายอย่างที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ ซึ่ง “แรงจูงใจ วินัย ความรู้ที่ถูกต้อง และสมดุลชีวิต” คือสิ่งที่จะขาดไม่ได้ สำหรับการทำให้ “เป้าหมาย” ของเราได้รับการเติมเต็มจนสมบูรณ์