5 เคล็ดลับการทานอาหารเพื่อชะลอวัย โดยนักกำหนดอาหาร

10 อาหารชะลอวัย เพื่อให้ผิวคุณเปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก

นักวิจัยสรุปว่าการรับประทานผักและผลไม้เป็น อาหารชะลอวัย และเป็นวิธีที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพที่สุดในการต่อสู้กับผิวหมองคล้ำและริ้วรอย

1.วอเตอร์เครส

อุดมด้วยสารอาหารนี้เป็นแหล่งที่ดีของแคลเซียม, โพแทสเซียม, แมงกานีส, ฟอสฟอรัส, วิตามิน A, C, K, B-1 และ B-2 วอเตอร์เครสทำหน้าที่เป็นยาฆ่าเชื้อผิวหนังภายใน, เพิ่มการไหลเวียนและลำเลียงแร่ธาตุไปยังทุกเซลล์ของร่างกาย ส่งผลให้ออกซิเจนเพิ่มขึ้น เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามิน A และ C ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย, ช่วยรักษาริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน, ช่วยในการย่อยอาหาร และในการทำงานของต่อมไทรอยด์เนื่องจากมีปริมาณไอโอดีน

2.พริกหยวกแดง

พริกหยวกแดงเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติสูงสุดในการต่อต้านริ้วรอย นอกจากวิตามิน C ที่มีปริมาณสูงซึ่งดีสำหรับการผลิตคอลลาเจนแล้ว พริกหยวกสีแดงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าแคโรทีนอยด์อีกด้วย แคโรทีนอยด์เป็นรงควัตถุของพืชที่มีสีแดง, เหลือง และส้มที่เห็นในผักและผลไม้หลายชนิด มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด, มลภาวะ และสารพิษในสิ่งแวดล้อม

3.มะละกอ

superfood แสนอร่อยนี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ, วิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น ซึ่งรวมถึงวิตามิน A, C, K และ E, แคลเซียม, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส และวิตามิน B

สารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิดในมะละกอช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและชะลอสัญญาณแห่งวัยได้ มะละกอยังมีเอ็นไซม์ที่เรียกว่าปาเปน ซึ่งให้ประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอย เพิ่มเติมด้วยการทำงานเป็นหนึ่งในสารต้านการอักเสบที่ดีที่สุดในธรรมชาติ นอกจากนี้ยังพบในผลิตภัณฑ์ขัดผิวอีกมากมาย ดังนั้น การรับประทานมะละกอ (หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีปาเปน) จะช่วยให้ร่างกายของคุณผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้คุณมีผิวที่เปล่งปลั่งสดใส

4.บลูเบอร์รี่

บลูเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามิน A และ C รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าแอนโธไซยานิน ที่ทำให้บลูเบอร์รี่มีสีน้ำเงินเข้ม สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสงแดด, ความเครียด และมลภาวะโดยการลดการตอบสนองการอักเสบและป้องกันการสูญเสียคอลลาเจน

5.บรอกโคลี

บรอกโคลีเป็นสารต้านอาการอักเสบและต่อต้านวัย อุดมไปด้วยวิตามิน C และ K, สารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด, ไฟเบอร์, โฟเลต, ลูทีน, แคลเซียม โดยร่างกายของคุณต้องการวิตามิน C ในการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนหลักในผิวหนังที่ให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่น อีกทั้งลูทีนที่ช่วยในการรักษาการทำงานของหน่วยความจำของสมอง เช่นเดียวกับวิตามิน K และแคลเซียม ซึ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพของกระดูกและการป้องกันโรคกระดูกพรุน

6.ผักโขม

ผักโขมให้ความชุ่มชื่นและเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเติมออกซิเจนและเติมเต็มร่างกาย นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามิน A, C, E และ K, แมกนีเซียม, ธาตุเหล็ก และลูทีน ปริมาณวิตามิน C สูงของใบเขียวที่หลากหลายนี้ช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนเพื่อให้ผิวกระชับและเรียบเนียน ส่วนวิตามิน A ช่วยในการส่งเสริมให้เส้นผมแข็งแรงและเป็นมันเงา ในขณะที่วิตามิน K ช่วยลดการอักเสบในเซลล์

7.ถั่ว

ถั่วหลายชนิด (โดยเฉพาะอัลมอนด์) เป็นแหล่งวิตามิน E ที่ดี ซึ่งช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อของผิวหนัง, รักษาความชุ่มชื้น และปกป้องผิวจากรังสียูวี อีกทั้งวอลนัทยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ต้านการอักเสบ, ช่วยเสริมสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ผิว, ปกป้องแสงแดด และให้ผิวเปล่งประกายสวยด้วยการรักษาเกราะป้องกันน้ำมันตามธรรมชาติไว้ นอกจากนี้การรับประทานถั่วยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (วอลนัท) และเบาหวานชนิดที่ 2 (ถั่วพิสตาชิโอ) รวมทั้งการป้องกันความเสื่อมในผู้สูงอายุ (อัลมอนด์)

8.อะโวคาโด

อะโวคาโดมีกรดไขมันที่ต่อสู้กับการอักเสบสูงซึ่งช่วยให้ผิวเรียบเนียนและอ่อนนุ่ม มีสารอาหารที่จำเป็นมากมายที่ช่วยป้องกันผลกระทบด้านลบของการแก่ชราได้ รวมไปถึงวิตามิน K, C, E และ A, วิตามิน B และโพแทสเซียม ปริมาณวิตามิน A สูงในอะโวคาโดสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้มีผิวสวยเปล่งปลั่ง นอกจากนี้ปริมาณแคโรทีนอยด์จะช่วยในการป้องกันสารพิษ, ความเสียหายจากแสงแดด และยังช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง

9.มันเทศ

สีส้มของมันเทศมาจากสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าเบต้าแคโรทีน ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นวิตามิน A ที่ช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว, ส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิว และส่งผลให้ผิวนุ่ม และดูอ่อนเยาว์ มันเทศเป็นแหล่งวิตามิน C และ E ที่ดี ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายและทำให้ผิวของเราเปล่งปลั่ง

10.เมล็ดทับทิม

ทับทิมถูกใช้เป็นผลไม้รักษาโรคมานานหลายศตวรรษ มีวิตามิน C สูงและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ ทับทิมช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ และลดระดับการอักเสบ เมล็ดทับทิมยังมีสารประกอบที่เรียกว่า punicalagins ที่ช่วยรักษาคอลลาเจนในผิวหนังได้อีกด้วย

 

Resource : https://www.healthline.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า