เคยเห็นกันบ่อยๆ ใช่ไหมครับการนักกีฬาที่พอแพ้แล้วครั้งหนึ่งก็จะแพ้ซ้ำๆ ต่อไปเรื่อยๆ นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ในวงการกีฬา และแทบจะทุกวงการบนโลก กับการ “เชื่อว่าคุณค่าของตัวเอง” นั้น ขึ้นอยู่กับ “ผลงานในอดีตที่ผ่านมา” ถ้าเคยแพ้มาแล้วก็จะแพ้ซ้ำอีก ถ้าเลยล้มเหลวมาแล้วก็ไม่น่าจะไปได้ไกลกว่าเดิมอีก ความรู้สึกนี้อาจไม่ได้เริ่มต้นทันที จะแต่ค่อยๆ เริ่มต้นเมื่อนักกีฬาทำผลงานได้ไม่ค่อยดีติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทั้งตัวนักกีฬาเอง รวมถึงโค้ช ต้องแก้ไขสภาพจิตใจส่วนที่อ่อนไหวนี้ ให้กลับมาเข้มแข็งให้ได้ ถ้ายังมีเป้าหมายที่จะอยากจะประสบความสำเร็จ
เป็นธรรมดาที่เราทุกคนจะต้องแบกรับความกดดัน ทั้งจากตัวเองว่าจะทำผลงานได้ดีอย่างที่หวัง และจากผู้คนที่คาดหวังในตัวเราว่าจะต้องชนะและประสบความสำเร็จ นั่นจึงทำให้เมื่อพบกับความพ่ายแพ้ หัวใจก็เลยรู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจที่จะก้าวไปต่อ นี่ถือเป็นก้าวสำคัญของนักกีฬาทุกคนที่มีความตั้งใจที่อยากจะเป็นแชมป์ว่า นอกจากจะต้องเตรียมพร้อมเรื่องการฝึกซ้อมร่างกายและทักษะแล้ว การเตรียมพร้อมจิตใจตัวเองให้แข็งแกร่ง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้เวลาและความสำคัญ
[irp posts=”171″ name=”Roger Federer”]
[irp posts=”170″ name=”แข็งแรงมากกว่าใคร”]
ไม่มีแชมป์เปี้ยนคนไหนไม่เคยแพ้มาก่อน ทุกคนล้วนผ่านการเป็นตัวสำรอง การเป็นอันดับรั้งท้าย การเป็นม้านอกสายตา และการเป็นผู้แพ้มาก่อนทั้งนั้น เพราะระหว่างการเดินทางสู่จุดหมายที่ฝัน คือประสบการณ์สำคัญที่จะทำให้เราก้าวไปสู่การเป็นแชมป์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ดังนั้น มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะนำความพ่ายแพ้ นำสถิติที่เคยผ่าน มาเป็นตัวตัดสินคุณค่าในตัวเรา มาบั่นทอนกำลังใจว่าเราไม่มีทางก้าวต่อไปได้ เพราะตราบเท่าที่เรายังสามารถฝึกฝนพัฒนาศักยภาพร่างกายให้เก่งขึ้นได้ แกร่งขึ้นได้ วิ่งเร็วขึ้นได้ แล้วล่ะก็ เราก็มีโอกาสทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ รวมถึงมีโอกาสเป็นแชมป์ได้ในวันใดวันหนึ่งเสมอ ถ้าไม่เผลอยอมแพ้ไปซะก่อน