โรคปอดติดเชื้อ หรือจะเรียกว่า ปอดอักเสบ ปอดบวมก็ได้ ถือเป็นโรคที่มีความรุนแรงจนถึงขั้นอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ซึ่งเพราะโอกาสในการติดเชื้อนั้นอยู่รอบตัวเรา โดยทุกครั้งที่หายใจ เรามีโอกาสสัมผัส สูดเอาละอองฝอยที่มีเชื้อโรคปนอยู่เข้าไปได้ตลอดเวลา จึงทำให้การฉีดวัคซีนป้องกันไว้ก่อน ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งวัคซีนในการป้องกันโรคปอดติดเชื้อนั้น มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่
1.Prevnar 13
วัคซีนชนิดคอนจูเกด หรือ “13-Valent Pneumococcal Conjugate Vaccine” มีความสามารถในการป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคปอดติดเชื้อได้ 13 สายพันธุ์ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และผู้สูงอายุวัยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปได้ดี ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อรุนแรง ทั้งนี้ เชื้อทั้ง 13 สายพันธุ์ที่วัคซีน Prevnar 13 ป้องกันได้ ได้แก่ สายพันธุ์ 1, 3, 4, 5, 6A, 6B, 7F, 9V, 14, 18C, 19A, 19F, และ 23F โดยทั้ง 13 สายพันธุ์นี้ ถือว่าเป็นสายพันธุ์อันตรายที่พบมากในเด็กเล็ก และผู้ใหญ่
2.Pneumovax 23
วัคซีนชนิดโพลีแซคคาไรด์ หรือ “23-Valent Pneumococcal Polysaccharide Vaccine” มีความสามารถในการป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคปอดติดเชื้อได้ 23 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 1, 2, 3, 4, 5, 6B, 7F, 8, 9N, 9V, 10A, 11A, 12F, 14, 15B, 17F, 18C, 19A, 19F, 20, 22F, 23F, และ 33F จัดเป็นวัคซีนมาตรฐานสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ โดยควรฉีดในผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป หรือผู้ใหญ่ที่มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อง่ายเป็นพิเศษ เช่นเป็นโรคไตเรื้อรัง โรคปอด เบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ฯลฯ ก็ควรได้รับการฉีดวัคซีนชนิดนี้ด้วย เพื่อป้องกันความเสี่ยง
ทั้งนี้ เนื่องจากเชื้อ Streptococcus Pneumoniae ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปอดติดเชื้อนั้นมีประมาณ 90 สายพันธุ์ จึงทำให้มีการฉีดวัคซีนทั้ง 2 ชนิดนั้น ก็ยังไม่ได้ครอบคลุมทุกสายพันธุ์อยู่ดี นั่นหมายความว่า แม้จะฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 ชนิดแล้ว ก็ยังมีโอกาสเกิดโรคปอดติดเชื้อได้อยู่ แต่ก็ถือว่าลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
คนกลุ่มใดที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนโรคปอดติดเชื้อ?
แม้โรคปอดติดเชื้อจะสามารถเกิดได้กับทุกคน แต่โอกาสในการติดเชื้อยากหรือง่ายนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนเป็นสำคัญ โดยในคนที่มีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง พักผ่อนไม่เพียงพอ ทานอาหารไม่มีประโยชน์ มีความเครียด และมีอาการเจ็บป่วยอยู่แล้ว จะมีโอกาสเป็นโรคปอดติดเชื้อได้มากกว่า ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อได้มากที่สุด ที่ควรเฝ้าระวังได้แก่
1.ผู้สูงวัย
ผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป เนื่องจากภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอกว่าช่วงอายุอื่น สุขภาพร่างกายแข็งแรงน้อยกว่าช่วงวัยอื่น ที่สำคัญคือ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักมีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายอ่อนแอและมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย โดยที่เมื่อติดเชื้อแล้ว ก็จะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้มากกว่าวัยอื่น ๆ
2.เด็ก
ตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุต่ำกว่า 2 ปี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงวัยที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เพราะร่างกายยังเจริญเติบโตได้อย่างไม่เต็มที่ ยิ่งกับเด็กที่มีภาวะคลอดก่อนกำหนดด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเสี่ยงมากขึ้น เพราะระบบต่าง ๆ ยังไม่สมบูรณ์พอที่จะต้านทานเชื้อโรคได้
3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และภาวะภูมิคุ้มกันมีปัญหา
ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น ผู้ป่วยโรคไต โรคปอด ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคเบาหวานเป็นต้น คนกลุ่มนี้มีโอกาสติดเชื้อเป็นปอดติดเชื้อได้ง่ายมาก เนื่องจากภูมิคุ้มกันมีปัญหา และร่างกายอ่อนแอกว่าคนปกติทั่วไป
4.ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
เพราะบุหรี่มีพิษทำลายปอดโดยตรง ทำให้ระบบทางเดินหายใจอ่อนแอ จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย และที่อันตรายก็คือ หากติดเชื้อแล้ว จะมีความรุนแรงของโรคที่ทรุดอย่างรวดเร็วมากกว่า
สำหรับผู้สูงอายุแล้ว ความเสี่ยงเรื่องโรคภัยถือเป็นสิ่งที่ควรได้รับการใส่ใจดูแลให้ดี ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ได้แข็งแรงดีเหมือนสมัยหนุ่ม ๆ สาว ๆ หรืออาจมีโรคประจำตัวรวมอยู่ด้วย จึงทำให้มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น และมีอาการรุนแรงได้มากขึ้น โดยเฉพาะกับโรคปอดติดเชื้อ ที่ถือว่าเป็นโรคอันตราย ที่อาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
ดังนั้น การฉีดวัคซีนจึงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ได้ ซึ่งหากทำควบคู่กันไปกับการใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะช่วยทำช่วงชีวิตในบั้นปลายของผู้สูงอายุทุกคน มีความสุข สุขภาพแข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้มากขึ้น