นึกออกไหมครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เคยวิ่งแค่ 10 กิโลเมตร แล้วหวังประสบความสำเร็จ
ในการแข่งขันวิ่งมาราธอน?
จริงอยู่ที่เขาอาจไปถึงเส้นชัยได้ แต่เขาไม่มีทางได้รับชัยชนะ หรือทำเวลาได้ดีอย่างที่หวัง และแน่นอนว่า จะได้รางวัลเป็นความเจ็บปวดและอาการบาดเจ็บกลับมาแทนแบบเต็มที่แน่ๆ เพราะมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย ที่เราจะคว้าชัยได้ในการแข่งขันที่เราไม่เคยซ้อมที่จะไปให้ถึงมันมาก่อน
เส้นทางนักกีฬาของใครหลายๆ คน หรือแม้กระทั่งคนที่กำลังพยายามเปลี่ยนแปลงรูปร่างตนเองก็มักลงเอยไม่ต่างกันครับ เพราะความใจร้อน รีบเร่ง อยากเห็นผลลัพธ์เร็วไว อยากไปถึงจุดหมายได้เร็วดั่งใจ เลยทำให้เราไม่สนใจพื้นฐาน ของการสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับร่างกาย เราขยับน้ำหนักในการยกไปไวมาก ขยับเวลาในการฝึกซ้อมจากเดิมไปไกลมาก เพราะหวังว่ายิ่งฝึกหนัก ยิ่งซ้อมมาก จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้เร็ว โดยที่เราลืมไปว่า เราก็อาจล้มเหลวได้อย่างรวดเร็ว เพราะอาการบาดเจ็บเช่นกัน
[irp posts=”185″ name=”การวิ่งซอยเท้ามีประโยชน์อย่างไร?”]
[irp posts=”189″ name=”ความสำเร็จของนักกีฬา เป็นได้เพียงภาพลวงตาเมื่อไม่มีโค้ชที่ดี”]
สิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาและคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในการพัฒนาร่างกายตัวเองให้มีศักยภาพมากขึ้นนั้น คือการอดทนต่อการค่อยๆ พัฒนาตัวเองตามลำดับขั้น อย่างมีวินัย ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งร่างกายของเราคู่ควรกับความสำเร็จนั้น เด็กทารกจะเดินได้ต้องผ่านการคลานแล้วล้มก่อนฉันใด นักกีฬาจะวิ่งมาราธอนคว้าแชมป์ได้ก็ต้องผ่านการวิ่ง 10 กิโล 21 กิโล มาก่อนฉันนั้น หรือคล้ายกันกับการชกมวยข้ามรุ่นนั่นแหละครับ ที่มีไม่กี่คนหรอกที่จะสามารถประสบความสำเร็จได้ในทันทีที่ข้ามรุ่นมาเลย หรือถ้ามีพวกเขาก็ต้องผ่านการฝึกซ้อมของรุ่นใหญ่มาก่อน ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะเอามาตรฐานของรุ่นเล็ก มาชกกับรุ่นใหญ่ได้เลย
ดังนั้น อย่ารีบร้อนที่จะเป็นแชมป์ อย่ารีบร้อนที่จะประสบความสำเร็จ แต่จงค่อยพัฒนาตัวเองไปทีละขั้น พัฒนาศักยภาพร่างกายตัวเองให้คู่ควรไปเรื่อยๆ จนกระทั่งร่างกายเราพร้อมสำหรับทุกความสำเร็จที่เราต้องการ