โปรแกรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย หรือ Immune Booster นั้น คือการให้วิตามินปริมาณเข้มข้นสูงเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือดดำ ที่มีประโยชน์ในการช่วยกระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายเราแข็งแรงขึ้น ทนทานต่อไวรัส เชื้อโรค แบคทีเรีย และเจ็บป่วยได้ยากขึ้น ซึ่งแม้จะเป็นโปรแกรมที่ดี ที่เหมาะกับสถานการณ์วิกฤตโรคระบาดและฝุ่นพิษในปัจจุบัน
แต่ทั้งนี้ เพื่อให้การให้วิตามินเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพที่สุด เราควรได้รับการตรวจสุขภาพก่อน เพื่อประเมินสภาพภูมิคุ้มกัน และวางแผนในการจัดสูตรวิตามินที่เหมาะสมกับร่างกายมากที่สุด โดยรายละเอียดการตรวจร่างกายที่แนะนำนั้น มีดังต่อไปนี้
1.ตรวจเลือด
เพื่อพิจารณาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ซึ่งจะทำให้แพทย์ทราบได้ว่าปริมาณเม็ดเลือดขาวในร่างกายเรามีมากน้อยแค่ไหน มีการติดเชื้อเกิดขึ้นในร่างกายแล้วหรือไม่ ตลอดจนประเมินได้ว่าสภาพภูมิคุ้มกันในร่างกายเราเป็นอย่างไร
2.ตรวจค่าไต
เพื่อคัดกรองความปลอดภัยในการให้วิตามินความเข้มข้นสูง เนื่องจากหากผู้เข้ารับโปรแกรมImmune Booster เป็นโรคไต หรือมีค่าไตไม่เหมาะสม ก็อาจเสี่ยงทำให้ไตทำงานหนัก อาจเกิดการตกค้างของวิตามินสะสมมากเกินไปจนเป็นอันตรายได้
3.ตรวจเอนไซม์ G6PD
เพื่อคัดกรองโรคเม็ดเลือดแดงแตกง่าย ที่หากพบว่าร่างกายมีเอนไซม์ G6PD บกพร่อง ก็อาจเสี่ยงอันตราย เพราะเม็ดเลือดแดงในร่างกายอาจแตกได้ เนื่องจากกรได้รับปริมาณวิตามินความเข้มข้นสูง
4.ตรวจระดับน้ำตาลสะสม
โดยระดับน้ำตาลจะเป็นตัวบ่งบอกว่าร่างกายมีภูมิคุ้มกันมากน้อยเพียงใด ซึ่งในผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลสูงนั้น ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอ ทำให้ต้องปรับสูตรปริมาณความเข้มข้นของวิตามินให้เหมาะสม หรือวางแผนเพิ่มวิตามินชนิดอื่นให้รับประทานเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลให้น้อยลง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น
5.เอ็กซเรย์ปอด
เพื่อตรวจสอบความผิดปกติ เนื่องจากบางรายอาจมีการหลบซ่อนของโรคอยู่โดยไม่รู้ตัว เช่น วัณโรค ซึ่งก็จะยิ่งทำให้มีภูมิคุ้มกันต่ำ โดยหากตรวจพบว่าปอดมีความผิดปกติ ก็จะทำให้ประเมินสภาวะร่างกายได้ว่าควรให้สูตรวิตามินแบบใด จึงเหมาะสมกับร่างกายมากที่สุด รวมถึงยังทำให้วางแผนการรักษาโรคที่เป็นอยู่ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงทีด้วย
6.ตรวจระดับค่าตับ
เพื่อดูว่าตับมีการอักเสบหรือไม่ ตลอดจนตรวจเพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามภายหลังการเข้าโปรแกรมImmune Booster แล้วด้วยว่า ปริมาณวิตามินเข้มข้นสูงที่ได้รับไปนั้น ส่งผลกระทบต่อตับมากน้อยแค่ไหน เพื่อวางแผนสำหรับการให้วิตามินในการสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายในโอกาสต่อไป และเป็นข้อมูลในการดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ ด้วย
7.ตรวจระดับค่า CRP
เป็นการตรวจค่าการอักเสบในร่างกาย เพื่อช่วยให้แพทย์ประเมินได้ว่าควรจะจัดสูตรวิตามินปริมาณเข้มข้นสูตรไหน จึงจะเหมาะสมที่สุด ทั้งนี้ การให้วิตามินซีผ่านโปรแกรม Immune Booster ที่มีปริมาณความเข้มข้นสูงนั้น มีผลช่วยลดค่าการอักเสบในร่างกายได้โดยตรงอย่างมีประสิทธิภาพ
8.ตรวจระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่บ่งบอกถึงระดับภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยหากตรวจพบว่ามีภาวะพร่องฮอร์โมนตัวนี้ ก็จะช่วยประเมินได้ว่าจะต้องให้ปริมาณวิตามินมากเท่าไร จึงจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เพิ่มมากขึ้นได้
9.ตรวจระดับวิตามินดีในเลือด
เนื่องจากวิตามินดีมีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย แพทย์จึงจำเป็นต้องตรวจเพื่อให้สามารถคำนวณได้ว่าต้องเพิ่มสูตรวิตามินดีในโปรแกรมImmune Booster เท่าไร จึงจะเหมาะสมที่สุด
เนื่องจากสภาพร่างกายของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายก็แตกต่างกัน การตรวจสุขภาพตามรายละเอียดดังกล่าว จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้แพทย์สามารถประเมินสภาพร่างกาย และระดับภูมิคุ้มกัน พร้อมกำหนดปริมาณสูตรวิตามินที่เหมาะสมกับร่างกายของเราได้ดีมากที่สุด ซึ่งก็จะส่งผลให้สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกยได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่ต้องการ
ทั้งนี้ สำหรับโปรแกรมImmune Booster ของ รพ.พญาไท 3 นั้น จะรวมการตรวจจำเป็นทั้งหมดเอาไว้ด้วยกันแล้วอย่างครบถ้วน จึงมั่นใจได้เลยว่าเพียงแค่ครั้งเดียวที่เข้ารับโปรแกรมImmune Booster ก็สามารถทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรง รู้สึกสดชื่นขึ้น อ่อนเพลียน้อยลง และป่วยยากขึ้น แบบรู้สึกได้ชัดเจน