ในการแข่งขันกีฬา ใครมีศักยภาพร่างกายที่เหนือกว่าคนนั้น ทีมนั้น จะมีโอกาสมากกว่าในการคว้าชัยชนะเสมอ ในเวทีกีฬาระดับโลกมักแสดงให้เราเห็นบ่อยครั้งถึงการที่ “ยักษ์ใหญ่” ถูกล้มโดย “ม้ามืด” นอกสายตา ซึ่งหลายคนมักบอกกันว่า เป็นเพราะความประมาท และเป็นเพราะ “กำลังใจ” เป็นสำคัญ ซึ่งก็ไม่ใช่คำตอบที่ผิดครับ แต่ทว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือการจะเป็น “แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์” ได้ นักกีฬาจำเป็นต้องมีศักยภาพร่างกาย หรือ Human Performance ที่ถึงพร้อมด้วย
ลองจินตนาการดูว่า ถ้าแชมป์ฟุตบอลโลกปีล่าสุดอย่างฝรั่งเศส เจอกับทีมโนเนมก็จริง แต่เป็นทีมที่อึดกว่าเป็น 3 เท่า วิ่งเร็วกว่า 3 เท่า แข็งแรงกว่า 3 เท่า เคลื่อนที่ได้คล่องตัวกว่า 3 เท่า ฝรั่งเศสยังจะชนะอยู่หรือไม่? ใช่ครับ ก็อาจจะยังชนะอยู่ แต่ก็คงไม่ชนะแบบแพ้ยับแน่นอน หรือต่อให้แพ้ยับ ก็เชื่อว่าคงเป็นเกมส์ที่ดูสนุก สูสี และฝรั่งเศสคงต้องเหนื่อยไม่น้อยเลยทีเดียว
[irp posts=”203″ name=”ดื่มน้ำอย่างไรให้ได้ผลดี ในขณะที่ออกกำลังกาย”]
[irp posts=”204″ name=”การควบคุมตัวเอง”]
เพราะเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่คู่แข่งเหนื่อยก่อน ล้าก่อน เคลื่อนไหวช้าลง นั่นคือโอกาสของคนที่มีศักยภาพร่างกายเหนือกว่า ให้ตีตื้นกลับมาพลิกเกมส์ได้เสมอ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม นักกีฬาทุกคน ย้ำนะครับว่าทุกคน ถึงต้องเข้าซ้อมตามตารางอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนก็ตาม เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องมีระบบตรวจสอบสภาพความฟิต เพราะถ้าคุณไม่ฟิต ถึงคุณเก่งแค่ไหน บางทีก็ไม่สามารถเอาความเก่งออกมาใช้ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะอ่อนแรงโรยราไปซะก่อน และก็ด้วยเหตุผลเหล่านี้แหละครับ เราถึงเห็นข่าวนักกีฬาดังๆ ที่มั่นใจว่าตัวเองเก่ง แต่โดดซ้อม ถูกลอยแพ และไม่ประสบความสำเร็จสูงสุด อย่างนักกีฬาที่มีวินัย เคร่งครัด และซ้อมสม่ำเสมอ
ถ้าวันนี้เป้าหมายของเราคือต้องการเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ “ทักษะและพรสวรรค์” ไม่ใช่สิ่งจำเป็นเดียวที่เราต้องโฟกัส แต่หมายรวมถึง “การเพิ่มขีดจำกัดของศักยภาพร่างกายตัวเราเองด้วย” ที่เราต้องให้ความสำคัญ เพราะมันคือสิ่งที่จะช่วยสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในการแข่งขัน เป็นสิ่งที่จะช่วยลดช่องว่างระหว่างความเก่งลง แล้วทำให้คน 2 คน เสมอกัน ใกล้เคียงกันหรือสูสีกันได้ ในขณะที่กีฬาที่เล่นเป็นทีมนั้น ทีมใดก็ตามที่มีนักกีฬาที่ Human Performance ดีกว่า จำนวนมากกว่า ต่อให้เขาจะมีคนเก่งน้อยกว่า ทีมนั้นก็มีโอกาสชนะได้เสมอ แบบเดียวกับที่เราได้เห็นมาแล้วในหลายๆ ชนิดกีฬา ที่ “แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์” มีอยู่จริง ไม่ใช่แค่ในนิทานหรือความฝัน