“บุคลิกภาพที่ดี” คือ สิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ ด้วยแล้ว การได้มีใบหน้าที่สวยได้รูปอย่างที่ฝัน คือหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ทุกวันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังในการสรรค์สร้างสิ่งดี ๆ
ซึ่งปัจจุบันหนึ่งในปัญหายอดฮิตที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนกังวลและอยากแก้ไขเกี่ยวกับใบหน้าของตัวเองนั้น ก็ได้แก่ การมีแก้มที่เยอะจนเกินไป หรือมากจนทำให้รู้สึกว่าหน้าใหญ่จนสูญเสียความมั่นใจ ซึ่งปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้อย่างเห็นผลลัพธ์ทันตาด้วย การผ่าตัดไขมันที่แก้ม
ไขมันที่แก้มคืออะไร ทำไมแต่ละคนถึงมีไม่เท่ากัน?
“ไขมันที่แก้ม” ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งในร่างกายของคนเรา ที่มีลักษณะเป็นถุงไขมันเฉพาะอยู่บริเวณแก้ม ซึ่งเราทุกคนต่างมีมาตั้งแต่เกิด แต่จะมีขนาดใหญ่หรือเล็กอย่างไรนั้น ก็จะแตกต่างไปในแต่ละคน ทั้งนี้ ไขมันที่แก้ม เป็นสิ่งที่สามารถเพิ่มหรือลดเองได้ผ่านพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
แต่ทั้งนี้ จะเพิ่มมากขึ้นหรือลดลงได้มากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน ไม่สามารถกำหนดได้แน่ชัด เพราะบางคนแม้จะผอมมีน้ำหนักสมส่วนแต่ก็สามารถมีไขมันที่แก้มมากได้ ทำให้ใบหน้าใหญ่ หรือในบางคนแม้จะมีน้ำหนักที่มากกว่าปกติ แต่ไขมันที่แก้มก็อาจไม่ได้มาก ทำให้แม้ร่างกายส่วนอื่น ๆ จะดูอวบ แต่ใบหน้าและแก้มก็ยังสมส่วนได้รูปอย่างที่ต้องการ
ดังนั้น หากเราต้องการอยากมีรูปหน้าที่เรียวสวย อยากได้รูปหน้าแบบ V Shape อยากลดแก้มให้น้อยลง การผ่าตัดไขมันที่แก้มออก ถือเป็นวิธีทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ได้แน่นอน ชัดเจน ที่สุด ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตาเปล่าหลังการผ่าตัด
ขั้นตอนเป็นอย่างไร ในการผ่าตัดไขมันที่แก้ม?
ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ประกอบกับความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการผ่าตัดของแพทย์ จึงทำให้การผ่าตัดไขมันที่แก้มนั้นมีความปลอดภัยและไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วยเหมือนในอดีต ทั้งนี้ สำหรับการผ่าตัดไขมันที่แก้มนั้น จะเป็นการผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ ตรงเยื่อบุใต้ฟันกรามซี่บน กล่าวคือ เป็นการผ่าตัดภายในช่องปาก จึงทำให้ไม่มีแผลผ่าตัดภายนอก โดยมีรายละเอียดขั้นตอนในการผ่าตัด ดังนี้
- แพทย์ทำการฉีดยาชาเฉพาะที่ด้านในช่องปากบริเวณแก้มด้านที่ต้องการทำการผ่าตัด
- ทำการกรีดแผลความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร
- ใช้อุปกรณ์คีบพิเศษ ทำการคีบนำไขมันที่แก้มออกมา โดยไม่ได้ใช้เข็มดูดเหมือนกับการดูดไขมันหน้าท้องหรือการดูดไขมันตามส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ทั้งนี้ ไขมันที่ผ่าตัดออกมาจะมีขนาดประมาณ 2-3 CC หรือเทียบได้เท่ากับประมาณ ลูกชิ้นปลา 1 ลูกแบบกลม ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้รูปหน้าของเราเรียวลงได้อย่างเห็นได้ชัด
- เย็บปิดบาดแผลด้วยไหมละลาย และทำความสะอาดบาดแผลให้เรียบร้อย
ดูแลตัวเองอย่างไร หลังการผ่าตัดไขมันที่แก้ม?
ภายหลังการผ่าตัดไขมันที่แก้มเรียบร้อยแล้ว มีข้อควรระวังในการดูแลตัวเอง ดังนี้
- หลังการผ่าตัดสามารถรับประทานอาหารได้ทันที แต่ต้องงดเว้นของร้อน และอาหารที่มีรสเผ็ด รสจัด
- ควรระมัดระวังในการเคี้ยว และการอ้าปาก เพื่อป้องกันการอักเสบ
- ในการแปรงฟัน ควรระมัดระวังอย่าให้แปรงสีฟันโดนถูกแผล ซึ่งหากแผลถูกกระแทกอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ อักเสบและหายช้าได้
ทั้งนี้ ในการผ่าตัดไขมันที่แก้มนั้น ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย ก็คือ “เลือดออก” ซึ่งสำหรับผู้ที่เลือดหยุดยากด้วยแล้ว ก็ยิ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ หรือในคนไข้บางรายที่มีเลือดตกค้างอยู่ ก็อาจทำให้เกิดอาการแก้มบวม หรืออาจถึงขั้นติดเชื้อและเป็นอันตรายได้
ดังนั้น หลังการผ่าตัดไขมันที่แก้ม จึงจำเป็นต้องระมัดระวัง โดยควรทำการอมน้ำแข็งเพื่อห้ามเลือดอย่างน้อยเป็นเวลา 3 วัน รวมถึงต้องมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งโดยปกติทั่วไป ประมาณไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็จะเริ่มหายดีและเห็นผลทันทีอย่างเห็นได้ชัดว่าแก้มยุบลง แต่แผลจะหายสนิทภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
มีวิธีอื่นอีกหรือไม่ ถ้าไม่เลือกใช้การผ่าตัดไขมันที่แก้ม?
ในความเป็นจริงแล้ว แม้เราจะทำการผ่าตัดไขมันที่แก้มออกไปแล้ว เพื่อให้ได้ใบหน้าที่ได้รูปสวยตามต้องการ แต่หากเราไม่ควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้เหมาะสม ก็มีโอกาสที่ทำให้แก้มของเราใหญ่ขึ้นมาอีกได้เช่นกัน
ดังนั้น สำหรับแนวทางในการรักษาขนาดของแก้มบนใบหน้าเราให้มีขนาดเหมาะสมนั้น หากเราตัดสินใจไม่เลือกใช้วิธีการผ่าตัดไขมันที่แก้ม การควบคุมพฤติกรรมการรับประทานของตัวเองให้เหมาะสม คือวิธีที่ดีที่สุด ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งอย่าง “การฉีดเมโสแฟต” ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่หากเทียบผลลัพธ์แล้ว การผ่าตัดไขมันที่แก้มออก ถือเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ไวกว่า ชัดเจนกว่า และเจ็บน้อยกว่ามาก
พญ. นภารัตน์ จิระวัฒนผลิน
ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า
โรงพยาบาลพญาไท 3