“มนุษย์ต่างดาว” แห่งวงการลูกหนัง
ฟังดูเป็นฉายาที่แปลกประหลาด
แต่ก็ไม่อาจเป็นปฏิเสธได้ว่า
ความเก่งของ “เมสซี่” เหมือนมา
จากนอกโลกจริงๆ นั่นแหละ
คงไม่เป็นการดีนักถ้าจะบอกว่า ลีโอเนล เมสซี่
คือนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดแห่งยุคปัจจุบัน
เพราะมันคงไม่ใช่คำตัดสินที่เป็นเอกฉันท์
แต่ถ้าบอกว่าเขาคือหนึ่งในนักฟุตบอลพรสวรรค์
แห่งยุคล่ะก็ คงไม่มีใครกล้าที่จะปฏิเสธ
ด้วยส่วนสูงเพียงแค่ 170 ซม.
และร่างกายที่ดูบอบบางแถมป่วย
เป็นโรคภาวาดฮอร์โมนการเจริญเติบโต
ทำให้เมสซี่ดูไม่น่าจะมีอนาคตกับวงการลูกหนังเท่าไร
แม้เขาจะเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ก็ตาม
แต่ก็ด้วยทักษะที่ผิดมนุษย์มนาเหนือชั้นของเขา
ที่ฉายแววแต่เด็กๆ นั่นแหละ จึงทำให้บาร์เซโลน่า
คว้าตัวเขามาไว้เป็นเด็กปั้นของสโมสร
และรักษาอาการป่วยของเมสซี่จนหายดี
ในขณะเดียวกันเมสซี่ก็ฝึกซ้อม ฝึกฝนร่างกาย
ของตัวเองอย่างหนัก เพราะเขารู้ว่าสมรรถนะร่างกาย
คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้เขาก้าวไปได้ยังจุดสูงสุด
เมสซี่ตัวเล็ก แต่เขาใช้ความคล่องตัว
ในการเอาชนะคู่ต่อสู้ ใช้ความเร็วในการหลบหลีก
ใช้สมดุลร่างกายที่สมบูรณ์แบบเคลื่อนที่ไปบอล
ชนิดที่ใครก็ตามจับเขาได้ยาก ลีลาการเล่นฟุตบอลของเขา
เหมือนกับการร่ายเวทมนต์บนสนาม ให้ทุกสายตา
จับจ้องไปที่เขาเพียงแค่คนเดียว
ความสุดยอดของเมสซี่ทำให้บาร์เซโลน่า
คือทีมแถวหน้าของยุโรป เขาคือกุญแจสำคัญ
ของทุกแชมป์ที่บาร์เซโลน่าทำได้
ในขณะเดียวกันในด้านรางวัลส่วนตัว
เขาก็คือนักฟุตบอลที่คว้ารางวัลบัลลังดอร์
5 สมัย ซึ่งสูงสุดตลอดกาลเทียบเท่ากับ CR7
You have to fight to reach your dream.
You have to sacrifice and work hard for it.
คุณต้องสู้เพื่อไปให้ถึงความฝันของคุณ
คุณต้องเสียสละและทำงานหนักเพื่อมัน
ฝันของเมสซีคือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
แต่แม้ร่างกายของเขาจะดูด้อยกว่ามาตรฐานทั่วไป
แม้ว่าเขาจะป่วยและไม่แข็งแรงเหมือนนักกีฬาคนอื่นๆ
แต่เขาก็สู้เพื่อความฝันของตัวเองเสมอมา
ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งปัจจุบัน
ผ่านการฝึกซ้อม ฝึกอย่างหนัก
และมีวินัยสม่ำเสมอจนในที่สุดเขาก็
ทลายกำแพงอุปสรรคทุกอย่างลงได้
และก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ในที่สุด
ถ้าวันนี้เรายังมีฝัน
ไม่ว่ามันจะเป็นฝันที่ไกลแค่ไหน
ไม่ว่าเราจะมีอุปสรรคยิ่งใหญ่อะไรขวางอยู่
เราก็เพียงแค่ต้องทำเหมือนเมสซี่
ต้องสู้เพื่อที่จะไปให้ถึงฝัน
ต้องเสียสละและทำงานหนักเพื่อมัน
แล้วสักวันเราก็จะไปถึงเส้นชัยได้ในที่สุด