อุตส่าห์ออกกำลังกายมาตั้งนาน แต่พอบาดเจ็บครั้งเดียว ทุกอย่างที่ทำมาก็อาจไร้ความหมาย
สำหรับคนที่ตั้งใจออกกำลังกายอย่างมีเป้าหมาย
นั้นอาการบาดเจ็บถือเป็นมารผจญตัวร้าย ที่คอยทำลายความตั้งใจของเราให้มลายหายไปเสมอ ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้ตัวเองต้องเกิดอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายล่ะก็ 5 ข้อจากนี้ไปคือสิ่งที่ต้องใส่ใจละเลยไม่ได้เด็ดขาด
1. วอร์มอัพ & คูลดาวน์ คือสิ่งที่ขาดไม่ได้
การวอร์มอัพก่อนออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายพร้อมสำหรับการออกแรง ช่วยให้หัวใจ กล้ามเนื้อ และข้อต่อปรับสภาพและพร้อมต่อการออกกำลังได้อย่างเต็มที่ ส่วนการคูลดาวน์ จะช่วยให้ร่างกายค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพปกติแบบค่อยเป็นค่อยไป เหมือนกับการขับรถมาเร็วๆ แล้วเบรกกะทันหัน ที่มีโอกาสทำให้บาดเจ็บได้ การคูลดาวน์คือการไม่เบรกกะทันหัน ทำให้ร่างกายลดโอกาสเสี่ยงในการบาดเจ็บลงไป ทั้งนี้ การวอร์มอัพและคูลดาวน์นั้น อาจทำง่ายๆ ด้วยการปั่นจักรยานเบาๆ วิ่งเบา ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ประมาณ 5-10 นาทีก่อนและหลังการออกกำลังกาย
2. ค่อยๆ เร่งเครื่องทีละนิด อย่าสปีดตั้งแต่เริ่มต้น
บ่อยครั้งสำหรับคนมีไฟในการออกกำลังกาย มักเริ่มต้นอย่างรุนแรง หนักหน่วง และรวดเร็วตั้งแต่วินาทีแรก จึงทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากขึ้น ทั้งนี้ การออกกำลังกายที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมือใหม่ เราควรเริ่มต้นช้าๆ และค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ ปรับระดับน้ำหนัก เวลา ระยะทาง ฯลฯ ขึ้นทีละนิดๆ สัปดาห์ละเสต็ป ก็ได้ เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับสภาพ และสร้างรากฐานที่แข็งแรงจริงๆ ให้กับร่างกาย ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงบาดเจ็บซ้ำๆ ลงได้
3. มีสัญญาณเตือนเมื่อไร ให้หยุดอย่าฝืน
ถ้ารู้สึกว่าเกิดอาการเจ็บ เหนื่อยแบบจะขาดใจ หรือมีสัญญาณใดๆ ที่ส่งแววว่าไม่ค่อยโอเคแล้ว ควรหยุดออกกำลังกายทันที อย่าฝืนทำต่อไปให้ครบเซ็ต อย่าฝืนรักษาวินัยอย่างซื่อตรงเกินไป เพราะอาจทำให้ได้รับผลร้ายมากกว่าผลดี เราควรหยุดเพื่อดูอาการและพักฟื้นให้หายดีก่อน แล้วค่อยกลับมาออกกำลังกายใหม่อีกครั้ง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงการบาดเจ็บที่ร้ายแรงไม่ให้เกิดขึ้น
4. แต่งกายให้เหมาะสม อย่าเน้นเพียงแค่สวย
อุปกรณ์กีฬา การแต่งกาย สำหรับออกกำลังกาย ทุกวันนี้ถือว่าได้รับความนิยมมาก แต่ถ้าหากเราเน้นแต่ “ที่เขานิยม” โดยไม่สนใจสักเท่าไรว่ามันเหมาะกับเราไหม เข้ากับเท้าเราได้ดีไหม หรือบางคนก็ไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องมี อันนี้ถือเป็นเรื่องอันตรายที่ทำให้เราเสี่ยงบาดเจ็บได้ ดังนั้น ให้ความสำคัญกับการแต่งกายตัวเองสักนิด เสื้อผ้าที่ใส่เหมาะกับการใช้แรง ไม่คับไปหลวมไป รองเท้าออกกำลังกายควรซื้อ ไม่ใช่ใส่อะไรวิ่งก็ได้ ปั่นจักรยานก็ควรสวมหมวกนิรภัย ฯลฯ อย่างน้อยไม่จำเป็นต้องแพง แต่ถูกต้องเหมาะสมเข้าไว้ แล้วเราจะปลอดภัยมากขึ้น
5. อย่าอดอาหาร อย่าปล่อยผ่านไม่ดื่มน้ำเลย
ก่อนออกกำลังกายเราควรทานอะไรรองท้องบ้าง เพราะร่างกายต้องการพลังงานในการออกกำลังกาย ซึ่งหากเราไม่มีแรง ก็เสี่ยงอาจทำให้เกิดหน้ามืดจนเป็นอันตรายได้ หรืออย่างการวิ่งที่หากวิ่งทางไกลๆ ร่างกายสูญเสียน้ำไปมาก เราก็ควรจิบน้ำบ้าง ไม่ควรดื่มเยอะไป แต่ควรจิบบ้างเพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ เพราะหากชะล่าใจอาจเกิดการช็อกจนเป็นอันตรายได้
ความเสี่ยงในการบาดเจ็บระหว่างออกกำลังกายนั้น สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งมีก็แต่เพียงตัวเราเองเท่านั้น ที่จะเป็นคนควบคุม และลดโอกาสเสี่ยงภัยบาดเจ็บลงได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด อย่าลืมเป็นอันขาดว่า จุดมุ่งหมายในการออกกำลังกายของเรานั้นคือ เพื่อสร้างสุขภาพและร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ดังนั้น เราคงไม่มีวันไปถึงเป้าหมายนั้นได้แน่ ถ้าเรายังทำให้ตัวเองเสี่ยงกับการบาดเจ็บกับการออกกำลังกาย