ทุกวันนี้เราอาจพบเห็นคนส่วนใหญ่นิยมวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งการวิ่งนั้นถือเป็นหนึ่งในวิธีการออกกำลังกายที่ง่าย
และได้ประโยชน์แต่ทั้งนี้ ทราบหรือไม่ว่า “การเดิน” เองก็ถือเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์มากมายไม่แพ้กัน และที่สำคัญยังเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้เรามีโอกาสบาดเจ็บได้น้อยกว่าการวิ่งหลายเท่า โดยประโยชน์มหาศาลของการเดินออกกำลังกายที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนนั้น ซึ่งอ้างอิงจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์โดย American Heart Association ในปี พ. ศ. 2556 ที่ศึกษาจากอาสาสมัคร 48,000 คนเป็นเวลา 6 ปี ได้แก่
1. ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจน้อยลงกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายมากถึง 9.3%
2. การเดินออกกำลังกายกายช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้
3. ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้มากถึง 27%
4. มีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิต เบาหวาน
5. ช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อม
6. ช่วยเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
7. ช่วยให้นอนหลับได้ดีมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาภาวะเครียดและนอนไม่หลับ
8. มีส่วนช่วยในการลดอาการซึมเศร้า ทำให้มีจิตใจแจ่มใสเบิกบานมากขึ้น เนื่องจากการเดินออกกำลังกายทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนตระกูลสารแห่งความสุข
จากประโยชน์ทั้งหมด ทำให้เราเห็นว่า “การเดิน” เป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์อย่างมาก และยังเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย ทำได้ทุกเพศทุกวัย เหมาะสำหรับทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และวัยชรา ถือเป็นหนึ่งในแนวทางของการออกกำลังกายที่ช่วยสร้างพื้นฐานของการมีสุขภาพร่างกายที่ดีให้กับชีวิต โดยที่หาก เราเป็นคนไม่ชอบเล่นกีฬา หรือไม่มีเวลาออกกำลังกาย การหันมาใส่ใจการเดินออกกำลังกายประมาณวันละ 30 นาที ก็สามารถจะทำให้ร่างกายมีความแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคภัยไข้เจ็บได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้ สำหรับการเดินเพื่อสุขภาพหรือการเดินออกกำลังกายนั้น หลักสำคัญอยู่ที่ต้องเดินให้เร็วกว่าการเดินปกติ โดยเดิน “ให้หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ” คืออยู่ในระดับอัตราเต้นของหัวใจที่ 100-120 ครั้งต่อนาที