ในมุมมองของคนทั่วไป หรือแม้กระทั่งมุมมองของนักกีฬาส่วนใหญ่บางกลุ่มนั้น มักให้ความสำคัญกับ “ความแข็งแรง” เป็นหลัก และเชื่อว่าความแข็งแรงคือกลไกสำคัญที่จะทำให้นักกีฬาสามารถแสดงศักยภาพร่างกายออกมาได้อย่างดี และมีโอกาสได้รับชัยชนะ คล้ายๆ กันกับที่คนทั่วไปมองว่า “นักกีฬาต้องมาพร้อมกับคำว่าความแข็งแกร่ง” ถ้าคนไหนตัวเล็ก กล้ามน้อย ดูไม่บึกบึน ก็จะรู้สึกว่านักกีฬาคนนี้ ไม่น่าจะมีโอกาส แต่ในโลกของความเป็นจริงนั้น เราก็เห็นกันอยู่เสมอว่า นักกีฬาตัวเล็ก กล้ามไม่ใหญ่มาก ก็สามารถคว้าแชมป์ได้เช่นกัน ทั้งนี้ไม่เพียงขึ้นอยู่กับชนิดกีฬาเท่านั้น แต่เพราะหัวใจสำคัญของสมรรถภาพร่างกายคนเรานั้นมีหลายองค์ประกอบ ไม่ได้พึ่งพาเพียงแค่ความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว
องค์ประกอบสมรรถภาพร่างกายที่คนอยากเป็นแชมป์ควรรู้
สมรรถภาพร่างกาย คือ ลักษณะของร่างกายที่มีความสมบูรณ์พร้อมในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหากยึดตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการนานาชาติ เพื่อจัดมาตรฐานการทดสอบความสมบูรณ์ทางกายแล้ว สมรรถภาพทางกายทั่วไปนั้น จะมีองค์ประกอบอยู่ด้วยกัน 7 ประการ ดังต่อไปนี้
1. ความเร็ว (Speed)
2. พลัง (Power)
3. ความแข็งแรง (Strength)
4. ความอดทนของกล้ามเนื้อ (Local Muscle Endurance)
5. ความอ่อนตัว (Flexibility)
6. ความคล่องแคล่วว่องไว (Agility)
7. ความอดทนทั่วไป หรือ ความทนทานของระบบไหลเวียน (General Endurance or Aerobic Capacity)
ทำความเข้าใจกีฬาตัวเองให้ดี ถึงจะมีโอกาสเป็นแชมป์
จากองค์ประกอบทั้งหมดของสมรรถภาพทางกาย ทำให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่า การจะเป็นแชมป์หรือมีโอกาสในการแข่งขันกีฬาใดสักชนิดหนึ่งนั้น ไม่ได้อาศัยเพียงแค่ความแข็งแรงอย่างเดียว แต่ยังต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งนักกีฬาคนใดก็ตามที่มีสมรรถภาพร่างกายครบองค์ประกอบที่มากกว่า ประกอบกับมีทักษะที่เหนือกว่า ก็จะมีโอกาสเข้าใกล้ชัยชนะได้มากกว่า ทั้งนี้ ชนิดกีฬาที่แตกต่างออกไป ก็จะใช้องค์ประกอบของสมรรถภาพร่างกายแต่ละข้อมากน้อยต่างไปด้วย อย่างเช่น บางชนิดกีฬาอาจต้องใช้ความอ่อนตัวมากกว่าความแข็งแรง มากกว่ากล้ามเนื้อที่ใหญ่โต
การฝึกซ้อมก็จะเน้นไปที่การสร้างความแข็งแรงที่ไม่ได้เร่งขนาดกล้ามเนื้อ แต่ให้มีความแข็งแรงมากพอ และไปเน้นที่ความอ่อนตัว ความคล่องตัวแทน เป็นต้น นั่นเองที่ทำให้กับการที่เรามีเป้าหมายว่าอยากเป็นแชมป์ ทั้งตัวนักกีฬาเอง และตัวโค้ช ก็จำเป็นจะต้องเข้าใจชนิดกีฬานั้นๆ ให้ดีว่า ต้องการสมรรถภาพทางกายแบบไหน และก็จำเป็นต้องรู้ว่าร่างกายของนักกีฬาหรือของตัวเองเป็นอย่างไร ขาดตกบกพร่องตรงไหน เพื่อออกแบบโปรแกรมฝึกซ้อมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการรีดสมรรถภาพทางกายให้สามารถแสดงศักยภาพร่างกายออกมาได้อย่างเหนือขีดจำกัด และมีโอกาสเป็นแชมป์ได้มากที่สุด
