ปัจจุบันอาชีพโค้ชนักกีฬาในระดับต่างประเทศนั้น ถือเป็นอาชีพที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งสิ่งที่สะท้อนภาพของวงการโค้ชนักกีฬาที่เติบโต ก็คือ ความสำเร็จในการคว้าแชมป์เวทีกีฬาระดับโลกนั่นเอง ทั้งนี้เมื่อย้อนกลับมาในบ้านเรา แม้อาชีพโค้ชนักกีฬาจะยังไม่ถือว่า Hot Hit แบบต่างประเทศ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กำลังค่อยๆ ได้รับความนิยมและเพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะการพัฒนาของวงการกีฬาในประเทศ อย่างไรก็ตาม การจะเป็นโค้ชนักกีฬามืออาชีพที่ดี ที่สามารถเติบโตและสร้างรายได้ได้อย่างมั่นคง ประสบความสำเร็จในสายอาชีพนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และจำเป็นที่จะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญหลายประการ โดยอย่างน้อยที่สุด ในการเตรียมตัวสู่การเป็นโค้ชนักกีฬาที่ดีนั้น ก็ควรมีคุณสมบัติพื้นฐาน ดังต่อไปนี้
1. ต้องเป็นโค้ชที่มี Certified
แน่นอนว่านักกีฬาเป็นเรื่องของการแข่งขันในระดับเวทีใหญ่ๆ ระดับประเทศ ระดับโลก ดังนั้น การจะเข้าไปเป็นโค้ชนักกีฬามืออาชีพได้นั้น ใบประกอบวิชาชีพ หรือ Certification ถือเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่ต้องมี เพราะต่อให้มีประสบการณ์ดีแค่ไหน ในการจะฝ่าฟันเข้าไปถึงตำแหน่งโค้ชนักกีฬาระดับชาติได้ ใบประกอบวิชาชีพคือสิ่งเบิกทางที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้ได้รับการยอมรับ และเปิดโอกาสให้เราได้แสดงฝีมือของตัวเองอย่างแท้จริง
2. อย่าพึ่งแต่ใบประกาศ จนปล่อยให้ขาดประสบการณ์
แน่นอนว่าใบประกาศประกอบวิชาชีพนั้นสำคัญ แต่สุดท้ายแล้วถ้าเราไม่มีประสบการณ์ ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กจบใหม่ที่มีใบปริญญาแต่ไม่มีพอร์ทงานดีๆ เพียงพอให้บริษัทใหญ่ๆ เรียกตัวไปใช้งาน ดังนั้น บนเส้นทางของการเป็นโค้ชนักกีฬาที่จะประสบความสำเร็จนั้น เราจำเป็นจะต้องอดทน และค่อยๆ เก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ อย่าหลีกเลี่ยงงานเล็กๆ น้อย แต่จงใช้ใบประกอบวิชาชีพของตัวเองสั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เพื่อให้เรามีคุณสมบัติที่คู่ควรกับการเป็นโค้ชนักกีฬามืออาชีพได้ เมื่อถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสม
3. ต้องกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับความคาดหวังขั้นสูงสุด
ขึ้นชื่อว่านักกีฬา ว่าผู้จัดการทีมกีฬา ไม่ว่าจะระดับเล็กหรือใหญ่ ทุกคนจ้างโค้ชนักกีฬามาเพื่อหวังว่าเราจะทำให้ทีมกีฬาและนักกีฬาของเขาเป็นแชมป์ ดังนั้น การเป็นโค้ชนักกีฬาที่ดี ที่จะเติบโตบนเส้นทางอาชีพได้ จึงต้องมีความกล้าหาญ และเข้มแข็งมากพอที่จะไม่กลัวการถูกตั้งความหวัง และตัวโค้ชเองก็ควรตั้งปณิธานความหวังในการฝึกนักกีฬาของตัวเองไว้ด้วยว่า จุดหมายสูงสุดที่ควรจะทำให้ได้ คือการทำให้นักกีฬาเป็นแชมป์ หรือเข้าใกล้กับตำแหน่งแชมป์ให้ได้มากที่สุด เพราะความสำเร็จของนักกีฬา ก็คือความสำเร็จของโค้ช
4. ต้องมีความเป็นผู้นำ เอานักกีฬาอยู่
โค้ชคือผู้ที่ต้องคอยชี้แนะ ให้คำแนะนำ กับนักกีฬา ให้ปฏิบัติตาม ดังนั้น คุณสมบัติสำคัญของโค้ชนักกีฬาคือการมีความเป็นผู้นำ สามารถทำให้นักกีฬาและทีมยอมรับ เคารพ และเชื่อมั่นศรัทธาในตัวเองได้ เพราะหากโค้ชไร้แล้วซึ่งความสามารถในการออกคำสั่ง โปรแกรมการฝึกซ้อมก็จะไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสม ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้นักกีฬาไปไม่ถึงเป้าหมายตามที่ตั้งไว้
5. ยอมรับความพ่ายแพ้ และความผิดพลาดของตัวเอง
โค้ชนักกีฬาที่ดี ไม่ใช่โค้ชที่พาทีมชนะทุกการแข่งขัน เพราะต่อให้โค้ชทำทีมดีแค่ไหน ฝึกนักกีฬาดีแค่ไหน ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้นักกีฬาพ่ายแพ้ได้อยู่ดี ดังนั้น โค้ชที่ดีจึงจำเป็นต้องยอมรับความพ่ายแพ้ให้ได้ และยอมรับให้ได้ด้วยว่าถ้าความพ่ายแพ้นั้น เป็นผลมาจากความรับผิดชอบของตัวเอง เพื่อให้สามารถเปิดใจ มองเห็นสิ่งที่ต้องแก้ไข และนำพาทีมพัฒนากลับมาเป็นทีมใหม่ กลับมาเป็นนักกีฬาคนใหม่ที่เก่งขึ้นกว่าเดิม และมีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะได้มากกว่าเดิม
6. ยอมรับในการเปลี่ยนแปลง รู้จักวางแผนชีวิตตัวเอง
อาชีพโค้ชนักกีฬานั้น เป็นอาชีพที่มีความผันผวนสูงที่สุดอาชีพหนึ่ง กล่าวคือ ยามทีมชนะอะไรๆ ก็ดีหมด แต่ยามทีมแพ้นั้น อนาคตก็สามารถพังหมดได้ในพริบตาเช่นกัน โค้ชนักกีฬามีโอกาสถูกปลดได้ตลอดเวลาหากทำผลงานไม่ดี อาจถูกเปลี่ยน ถูกปรับบทบาทได้เสมอ ซึ่งทำให้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการเตรียมใจ เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพราะเมื่อไรก็ตามที่ถูกปลด ช่วงเวลานั้นโค้ชอาจไม่มีโอกาสกลับเข้าทีมใดได้อีกเลย กลายเป็นคนว่างงาน เพราะฤดูกาลแข่งขันได้เริ่มไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น โค้ชนักกีฬามืออาชีพจึงต้องเตรียมพร้อมวางแผนรับมือกับชีวิตของตัวเองไว้ตลอดด้วย ไม่ใช่เฉพาะแต่ตอนประสบความสำเร็จ แต่หมายรวมถึงตอนที่ชีวิตต้องเจอกับวิกฤติความพ่ายแพ้ด้วย
ไม่มีอาชีพใดง่ายได้ ไม่มีเส้นทางไปสู่จุดหมายได้ราบรื่นและโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ ทุกเส้นทางอาชีพล้วนมีขวากหนามอุสรรคให้ต้องพยายามก้าวข้ามผ่านไปให้ได้เสมอ อาชีพโค้ชนักกีฬาก็เช่นกัน แม้จะมองเห็นภาพความสำเร็จชัดเจนแค่ไหน แต่การจะไปถึงนั้นก็ต้องอาศัยความพยายามและความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างถึงที่สุด อย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญของการเป็นโค้ชนักกีฬาที่ดีนั้น คือ การให้ความสำคัญกับนักกีฬา คิดถึงนักกีฬาเป็นที่ตั้ง เพราะความสำเร็จของโค้ชจะเกิดได้ ก็ต่อเมื่อเราพานักกีฬาไปสู่เส้นชัยที่เป็นเป้าหมายเท่านั้น
