ไม่เคยเป็นแชมป์กีฬา จะมาเป็นโค้ชอาชีพได้ดีแค่ไหน?

เชื่อว่าอาจมีนักกีฬาหลายๆ คน รวมถึงในหมู่เทรนเนอร์ และโค้ชนักกีฬาด้วยกันเองจำนวนไม่น้อย ที่มีความคิดสงสัย เชิงตั้งคำถามว่า สำหรับคนที่ไม่เคยเป็นแชมป์ หรือไม่เคยประสบความสำเร็จในฐานะนักกีฬามาก่อน จะสามารถมาเป็น “โค้ช” เป็น “ผู้ฝึกสอนกีฬา” ได้ดีจริงๆ หรือ? จะสามารถทำหน้าที่โค้ชฝึกนักกีฬาให้ประสบความสำเร็จได้จริงหรือ? ซึ่งคำตอบนั้น วงการกีฬาก็ได้พิสูจน์ให้เราเห็นกันแล้วเสมอว่า มีทั้งที่ทำได้ และทำไม่ได้ และไม่มีความจำเป็นที่เราต้องมาตั้งคำถามอะไรทำนองนี้เลย เพราะ การเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จ กับการเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จนั้น มันเป็นคนละเรื่องกัน

เพราะต่างทักษะ จึงจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้

ถ้าถามว่าอะไรคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้โค้ชเก่งๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักกีฬาที่เก่งระดับแชมป์มาก่อน ก็คงต้องตอบว่า เพราะทักษะของการเป็นโค้ชนั้นต่างจากทักษะของการเป็นนักกีฬา กล่าวคือ ต่อให้เราเคยเป็นนักกีฬาที่เป็นแชมป์โลกมาก่อน ก็ไม่ได้การันตีเลยว่า เราจะเป็นโค้ชที่ฝึกนักกีฬาให้ประสบความสำเร็จเป็นแชมป์โลกได้ เพราะทักษะของการเป็นโค้ชนั้น นักกีฬาบางคนก็ไม่สามารถทำได้ดีมากพอ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าใจคนอื่น การเป็นผู้นำที่ดี การมองหาจุดด้อยจุดเด่นของคนอื่นให้เจอ และรู้วิธีการสื่อสารที่ดีมากพอจะทำให้เขาพัฒนาตัวเองขึ้นได้

การทำอะไรด้วยตัวเอง เป็นเรื่องง่ายกว่าการสอนให้คนอื่นทำเป็นมากนัก ดังนั้น การเป็นนักกีฬาระดับแชมป์ จึงไม่ได้มีแต้มต่ออะไรมากพอที่จะบอกได้ว่าเขาจะเป็นโค้ชที่ดีได้ ดังที่เราจะเห็นตัวอย่างมากมายในวงการกีฬาว่า นักกีฬาระดับแชมป์หลายคนที่ผันตัวมาเป็นโค้ช ก็ไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่นิดเดียว

เพราะเป้าหมายไม่เหมือนกัน จึงเก่งกันคนละทาง

เราจำเป็นต้องยอมรับข้อเท็จจริงด้วยว่า ในวงการกีฬานั้น ไม่ได้ประกอบไปด้วย “นักกีฬา” เพียงอย่างเดียว แต่ต้องประกอบไปด้วยบุคลากรทางด้านกีฬาอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และก็เหล่าบรรดาโค้ชต่างๆ อีกหลากหลายแขนง ซึ่ง แต่ละคนก็มีเป้าหมาย มีความฝันที่ต่างกัน ไม่ใช่ทุกคนเริ่มต้นก็อยากเป็นนักกีฬาเลย ดังนั้น เมื่อเป้าหมายต่างกัน การเดินทางเพื่อไปให้ถึงจุดหมายก็ต่างกัน และนั่นเองที่ทำให้ แต่ละคนก็มีความเชี่ยวชาญในด้านของตัวเอง ไม่เก่งแบบก้าวก่ายกัน แต่ทุกคนทำงานร่วมกันเพื่อไปให้ถึงจุดหมายร่วมกัน และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ โค้ชไม่จำเป็นต้องเก่งเท่ากับนักกีฬา แต่เป็นคนที่มีวิชาที่สามารถเพิ่มโอกาสในการคว้าแชมป์ให้กับนักกีฬาได้นั่นเอง

ทั้งนี้ เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดอีกสักนิด ก็ให้ลองคิดถึง “ครู” ดูก็ได้ว่า ครูที่สอนเรามาทุกคนนั้น ไม่ได้เป็นครูที่เป็นนักคณิตศาสตร์เหรีญทองโอลิมปิก หรือครูระดับโลก แต่ทุกคนผ่านมาตรฐานการฝึกที่เป็นครูมาอย่างเพียบพร้อม และสามารถทำให้เรา “เด็กธรรมดาๆ” กลายเป็นเด็กที่สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันด้านวิชาการ การสอบได้คะแนนเต็มได้ โค้ชนักกีฬาเองก็เป็นเหมือนกัน คือพวกเขาเดินอยู่บนเส้นทางของการฝึกเพื่อเป็นครู และมาเป็นครูเพื่อฝึกให้เราเป็นแชมป์ ไม่ใช่ฝึกมาเพื่อให้ตัวเองเป็นแชมป์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าโค้ชเคยเป็นแชมป์มาก่อนด้วย และผ่านการฝึกเป็นโค้ชมาด้วย ก็ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

สำหรับนักกีฬาแล้ว การ “ตั้งคำถามในตัวโค้ช” หรือ “การตั้งข้อสงสัยในตัวเทรนเนอร์” นั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลว เพราะหัวใจสำคัญของการไปให้ถึงตำแหน่งแชมป์ ไม่ใช่แค่นักกีฬาเก่ง ไม่ใช่แค่นักกีฬาเป็นพระเอก แต่เป็น “การทำความเข้าใจร่วมกันของทีม” เพราะทุกกีฬาคือการทำงานเป็นทีม ไม่มีกีฬาอะไรเล่นเดี่ยว เพราะต่อให้แข่งคนเดียว เราก็ต้องพึ่งอีกหลายชีวิต หลายวิชาชีพในการสร้างเราขึ้นมา

ดังนั้น แทนที่จะตั้งคำถามว่า “เก่งจริงหรือเปล่าถึงมาสอนฉัน?” นักกีฬาควรที่จะเปิดใจและยอมรับในการทำงานร่วมกัน ให้เวลาค่อยๆ พิสูจน์ว่า ใครมีข้อดีตรงไหน ใครมีข้อเสียตรงไหน แล้วค่อยๆ ปรับจูนเข้าหากัน เพื่อให้ได้รูปแบบการฝึกที่ดีที่สุด เหนือสิ่งอื่นใดคือ เราต้องจำไว้เสมอว่า ไม่ว่าจะโค้ชหรือนักกีฬา ทุกคนสามารถผิดพลาดได้ และสามารถแก้ไข ปรับปรุงพัฒนาได้ ถ้าเรายอมรับ และพร้อมที่จะปฏิบัติตาม ซึ่ง การจะไปให้ถึงเป้าหมายที่ตำแหน่งแชมป์นั้น ทุกคนในทีมกีฬา ทีมฝึกซ้อม ล้วนมีส่วนรับผิดร่วมกันหมดทุกคน

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า