แข่งกีฬาไม่ได้ต้องการเพียงแค่ ความแข็งแรงอย่างเดียว

ถ้าพูดถึงเกมฟุตบอล ในตระกูลอย่าง Winning FiFA PES หรือเกมวางแผนในฐานะผู้จัดการทีมอย่าง CM Manager แล้ว เชื่อเหลือเกินครับว่า เหล่าบรรดาคนคอกีฬา และทำงานอยู่ในสายกีฬา สายพัฒนาศักยภาพร่างกายนั้น เราต่างก็ต้องเคยเล่นกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งถ้าเรารำลึกความหลังกันดีๆ ก็จะพบว่า Key สำคัญที่จะทำให้เราเล่นเกมเหล่านี้ชนะได้นั้น ก็ต้องอาศัย “นักเตะ” ที่มี “ค่าพลัง” มากๆ เป็นหลัก แต่ทั้งนี้ ในคำว่าค่าพลังที่ต้องมากนั้น ก็จำเป็นต้องใช้หลายค่าด้วย ไม่ใช่ว่ามีค่าพลังบางค่า หรือค่าเดียวที่มาก เพราะหากเป็นแบบนั้น มันก็จะไม่สมดุล จนทำให้ไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้มากพอกับชัยชนะ

Body Balance, Stamina, Top Speed, Acceleration, Agility, Response, Dribble Acc, Dribble Speed ฯลฯ นี่เป็นเพียงแค่ค่าความสามารถบางส่วนเท่านั้น ที่เวลาเล่นเกม เราจะเลือกดูว่า ถ้านักเตะคนไหนที่มีค่าเหล่านี้มากๆ เราก็จะคัดเอามาเป็นตัวจริง โดยหากเราเห็นนักแตะบางคนที่มีค่า Top Speed สูง แล้วคิดว่าเขาจะเก่งเลย โดยที่ไม่สดใจค่า Stamina และ Body Balance เวลาเราบังคับนักแตะคนนั้น ก็จะพบว่า วิ่งเร็วจริง แต่ต้องวิ่งที่โล่งๆ เพราะถ้าถูกชนจากคู่แข่ง จะกระเด็นแบบ ไม่มีแรงปะทะ

คือพูดง่ายๆ ครองบอลไม่ได้เลย โดนเบียดไม่ได้เลย จนทำให้สุดท้าย ก็ไม่สามารถนำ “ความเร็วที่มีออกมาใช้ได้” หรือ อย่างถ้าเทียบนักแตะที่มี Top Speed สูง แต่ Acceleration ต่ำ กับนักแตะที่มี Top Speed ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ Acceleration สูง เอา 2 ตัวนี้มาวิ่งแข่งกัน ตอนแรกคน Top Speed สูงอาจออกตัวได้แรงกว่า แต่พอเป็นการวิ่งแบบมีระยะทางแล้ว สุดท้ายก็ถูกคนที่มี Acceleration ดีกว่ากวดทันในที่สุด

จากการเล่นเกมเหล่านี้เอง ที่ค่าพลังของนักเตะ ส่งผลต่อการบังคับนักเตะให้ได้ดั่งใจเรา ให้ได้ประสิทธิภาพอย่างที่เราอยากได้ จึงสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนครับว่า ในการแข่งขันกีฬานั้น “ค่าพลังอย่างใดอย่างเดียว” มันไม่เพียงพอต่อการแสดง “ศักยภาพความสามารถ” ที่เหมาะสมกับชัยชนะออกมาได้ ถ้ามองต่อยอดไปยังในชีวิตจริง นั่นก็หมายความง่ายๆ ว่า นักกีฬาคนหนึ่งจะไปถึงแชมป์ได้นั้น เขาอาศัยเพียงแค่ความแข็งแกร่ง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างเดียวไม่ได้ แต่เขาต้องมีความคล่องตัว มีความอึด การรักษาสมดุลร่างกายเวลาเคลื่อนไหวที่ดี มีความเร็วที่มากพอ และมีอะไรอื่นๆ อีกมาก ที่จะช่วยทำให้เขาขยับร่างกายได้เหนือคู่แข่ง

เพราะนอกจากทักษะแล้ว ก็เรื่องของ Performance ร่างกายนี่แหละ ที่เป็นหัวใจสำคัญของการเป็นแชมป์ หรือถ้าจะยกตัวอย่างง่ายๆ ให้เห็นชัดอีกนิดก็คือ นักฟุตบอลคนหนึ่งเก่งมากๆ เลย มีทักษะในการเลี้ยงบอลที่ดีมาก แต่ถ้าตัวเขาไม่มีความอึด ไม่มีความเร็ว สู้แรงปะทะไม่ได้ เลี้ยงหลบไปได้คนหนึ่ง เลี้ยงไปได้สักพักหนึ่ง ก็คงหมดแรง อ่อนล้า และถูกแย่งบอลไปได้ในที่สุด นั่นเองที่เป็นเหตุผลว่า ทักษะอย่างเดียวไม่พอ ร่างกายต้องดีด้วย และที่บอกว่าร่างกายต้องดีด้วย ก็ไม่ใช่แค่ต้องแข็งแรงกล้ามใหญ่อย่างเดียว แต่ต้องมีอีกหลายๆ องค์ประกอบอื่นของการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบด้วย

เกมแม้จะเป็นเพียงแค่เกม แต่ก็เป็นสิ่งที่สร้างจำลองมาจากโลกของความจริง ค่าพลังทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป ที่ไม่ใช่เรื่องโกหก ดังนั้น สำหรับคนในวงการกีฬา ไม่ว่าจะเป็นโค้ช หรือว่านักกีฬาเองก็ตาม ก็ต้องตระหนักให้ขึ้นใจด้วยว่า เราจะไม่สามารถก้าวไปถึงเป้าหมายที่ตำแหน่งแชมป์ได้เลย หากเราโฟกัสเพียงแค่เรื่องใดเรื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นทักษะ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพราะในความเป็นจริงแล้ว การที่นักกีฬาคนหนึ่งจะเป็นแชมป์ได้นั้น ร่างกายทุกส่วนจะต้องแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ไม่ได้พึ่งเพียงแค่ทักษะ หรืออะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง…เพียงอย่างเดียว