แน่นอนว่าสำหรับการแข่งขันกีฬาในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรอบคัดเลือก หรือว่ารอบชิงแชมป์ สิ่งที่ทุกคนคาดหวังก็คือ “ชัยชนะ” แต่ก็จะมีเพียงแค่ 1 คน หรือ 1 ทีมเท่านั้นที่จะได้ในสิ่งที่ใจต้องการไปส่วนคนอื่นๆ ก็ต้องผิดหวังพับกระเป๋ากลับบ้าน นั่นเองที่ทำให้นักกีฬาและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ต่างก็พยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อหาคำตอบว่า “อะไรกันแน่คือปัจจัยสำคัญ” ของการให้ได้มาซึ่งชัยชนะ และวันนี้ เรามี 5 ปัจจัยสำคัญ ที่ควรใส่ใจให้ได้มากที่สุด ถ้าอยากให้ทีมมีโอกาสเข้าใกล้กับชัยชนะและความสำเร็จให้ได้มากที่สุด มาฝากกันครับ
1. ร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมของนักกีฬา
ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาอะไรก็ตาม “ร่างกายนักกีฬา” ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องได้รับการฝึกและเตรียมตัวมาอย่างดีที่สุด นักกีฬาจำเป็นจะต้องไม่บาดเจ็บ และสามารถที่จะแสดงศักยภาพร่างกายออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดภายใต้ขีดจำกัดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพละกำลัง การเคลื่อนที่ การเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกันกับความต้องการของชนิดกีฬานั้น โดยหากปราศจากซึ่งร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เราให้คนป่วยแข่งกับคนปกติ นั่นแหละ ที่โอกาสชนะนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็น 0 เลยทีเดียว
2. ทักษะที่เพียงพอต่อการสร้างผลงานในการแข่งขัน
แม้จะมีร่างกายที่แข็งแรง มีความแข็งแกร่ง และเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ถ้าหากทักษะในการเล่นกีฬานั้นของเราด้อยกว่าคู่แข่งมากเกินไป ก็คงเป็นไปได้ยากที่เราจะมีโอกาสคว้าชัยชนะได้ในการแข่งขัน อย่างกีฬางัดข้อที่มีแข่งขันกันทางทีวี บ่อยครั้งเหลือเกินที่เราเห็นว่า “คนตัวเล็กกว่า กล้ามเล็กกว่า” สามารถเอาชนะคนตัวใหญ่กว่า กล้ามใหญ่กว่าได้โดยไม่ยากเย็น หรืออย่างเมสซี่ ที่มีรูปร่างที่เล็ก และดูจะเปราะบางแข็งแกร่งน้อยกว่านักกีฬาฟุตบอลหลายๆ คน แต่ก็ยังสามารถเลี้ยงฟุตบอลหลบคู่ต่อสู้ได้แบบชนิดที่หาตัวจับยากได้ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เราเห็นว่า แม้ความแข็งแกร่งของร่างกายจะสำคัญ แต่ถ้าทักษะของนักกีฬาไม่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว ไม่โดดเด่น หรือไม่ทัดเทียมคู่แข่งล่ะก็ ยังไงก็จะเป็นรองและมีโอกาสน้อยกว่าที่จะเป็นแชมป์ได้เสมอ
3. โค้ชฝึกซ้อมและวางแผนนักกีฬามาเป็นอย่างดี
การแข่งขันกีฬาไม่ใช่การแข่งขันแค่เฉพาะนักกีฬากับนักกีฬาเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการแข่งขันกันระหว่างโค้ชและทีมกีฬาของทั้ง 2 ฝ่ายอีกด้วย โดยโค้ชฝั่งใดก็ตาม ที่วางโปรแกรมฝึกซ้อมมาได้อย่างเข้มข้น และรีดศักยภาพนักกีฬาออกมาได้มากกว่า วางแผนกลยุทธ์ในการแข่งขัน ในการแก้เกม ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่า ก็จะมีโอกาสได้รับชัยชนะได้มากกว่าในที่สุด ตัวอย่างความสำคัญของโค้ชนั้น มีให้เห็นในทีมกีฬาฟุตบอลเสมอ เช่นทีมๆ หนึ่งที่เคยทำผลงานได้อย่างโดดเด่น แต่เพียงแค่เปลี่ยนโค้ชไป ทั้งๆ ที่ทุกตำแหน่งยังเหมือนเดิม แต่ผลงานก็กลับย่ำแย่ลงราวกับคนละทีม สิ่งนี้เองที่ทำให้เราเห็นว่า โค้ชมีความสำคัญกับทีมกีฬาเป็นอย่างมาก และไม่ว่าจะเป็นโค้ชด้านการวางแผน หรือโค้ช เทรนเนอร์ ด้านการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาก็แล้วแต่ ล้วนมีความสำคัญในการชี้ขาดผลแพ้ชนะได้เลย
4. สภาพจิตใจของนักกีฬาในการแข่งขัน
แม้ร่างกายจะพร้อมแค่ไหน ทักษะจะเป็นเลิศเพียงใด แต่สุดท้ายแล้ว “จิตใจ” ก็จะเป็น “เจ้านาย” ร่างกายได้อยู่วันยังค่ำ ซึ่งหากนักกีฬามีปัญหาส่วนตัว หรือมีความกังวล ไม่มั่นใจ เกิดขึ้นในการแข่งขันล่ะก็ สมรรถภาพร่างกาย ศักยภาพที่เคยทำได้ ก็จะกลายเป็นว่าทำไม่ได้เหมือนเคยไปในที่สุด และเพียงแค่วินาทีเดียวของจิตใจที่ไขว้เขวในระหว่างการแข่งขัน ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชัยชนะหลุดมือไป นอกจากนั้นแล้ว สภาพจิตใจของโค้ช และทีมกีฬาเองก็มีผลต่อการแข่งขันเช่นกัน
เพราะหากในสถานการณ์ที่กดดัน นักกีฬาเสียขวัญ แต่ถ้าโค้ชยังกัดฟันไม่ยอมแพ้ คิดไตร่ตรองหาทางแก้เกม และให้กำลังใจนักกีฬา เชื่อมั่นในนักกีฬา และกระตุ้นให้นักกีฬาฮึดสู้ได้ ต่อให้เกมนั้นจะตามอยู่ห่างแค่ไหน ก็ยังสามารถมีโอกาสพลิกกลับมาได้เสมอ เอาจริงๆ เราสามารถกล่าวได้เลยว่า ถ้าความสามารถเท่ากัน ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงเสมอกัน โค้ชฝีมือดีสูสีกัน ทีมใดก็ตามที่นักกีฬาและผู้เกี่ยวข้องหัวใจแข็งแกร่งกว่า ทีมนั้นนั่นแหละ คือผู้ที่มีโอกาสมากกว่าในการคว้าชัยชนะไปครอง
5. สภาพแวดล้อมในการแข่งขัน
แม้อาจดูเหมือนไม่เกี่ยวเท่าไร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า มันมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่พอสมควรเลย เพราะเพียงแค่สภาพอากาศเปลี่ยนไป ก็ส่งผลต่อระบบหายใจ การเคลื่อนไหว และการตอบสนองร่างกายของนักกีฬาได้แล้ว นั่นจึงเป็นที่มาของการที่บางทีนักกีฬาเขตเมืองหนาว มาแข่งขันในเขตเมืองร้อนแล้ว ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไร ทั้งที่ฝีมือและชื่อชั้นเหนือกว่า และนั่นจึงเป็นเหตุให้ในโปรแกรมการฝึกซ้อมของนักกีฬานั้น จะมีการฝึกซ้อมแบบนอกสถานที่ ไปฝึกในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายแตกต่างกันไป เพื่อให้สภาพร่างกายคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมหลากหลายรูปแบบ จะได้สามารถแสดงศักยภาพร่างกายออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมใดก็ตามนั่นเอง
ถ้าจะพูดกันตามตรง ปัจจัยที่ส่งผลต่อการแพ้ชนะของการแข่งขันกีฬานั้น ยังมีอีกหลายประเด็น อาทิ เรื่องอุปกรณ์ในการฝึกซ้อม เทคโนโลยีในการฝึกซ้อม การดูแลโภชนาการของนักกีฬา ตลอดไปจนถึงระบบการรักษาอาการบาดเจ็บ ฟื้นฟู และบำบัดร่างกายของนักกีฬาด้วย ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดก็ล้วนมีเรื่องของ “เงินทุน” เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่เราปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า ใครที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีกว่า ก็จะมีโอกาสมากกว่าในการคว้าชัยชนะ
ทั้งนี้ ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า “การโทษใครสักคนเพียงแค่คนเดียว” เมื่อทีมแพ้นั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเลย เพราะ การแข่งกีฬาคือการทำงานเป็นทีม และมีหลายปัจจัยมากที่ส่งผลต่อการแพ้ชนะ ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนควรทำให้ดีที่สุดก็คือ ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ยอมรับ เคารพ และเข้าใจบทบาทความรับผิดชอบของตัวเอง สามัคคีกัน แพ้ก็แพ้ด้วยกัน ชนะก็ชนะด้วยกัน ซึ่งเมื่อทุกคนเดินอยู่บนทิศทางเดียวกันได้แล้ว โอกาสในการคว้าชัยชนะก็จะมีมากขึ้นเอง เพราะความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั้น คือพลังที่แข็งแกร่งที่สุด ที่จำเป็นอย่างยิ่งในการแข่งขันกีฬาทุกประเภท