หากพูดถึงนักกีฬาแล้ว ไม่สิ จริงๆ ก็รวมถึงโค้ชนักกีฬาด้วยนั่นแหละ ที่เป้าหมายสูงสุดของทุกคนนั้นต่างก็มุ่งไปที่การเป็นแชมป์ เป็นผู้ชนะในการแข่งขัน
ซึ่งแน่นอนว่ามันมีเพียงแค่ “หนึ่งเดียว” เท่านั้นที่จะได้มันไปและด้วยความที่พื้นที่ของความสำเร็จนั้นมันมีจำกัดเหลือเกิน จึงทำให้มีนักกีฬาและโค้ชจำนวนไม่น้อย ไม่สามารถที่จะก้าวเดินต่อไปได้บนเส้นทางที่ตัวเองรัก เพราะผิดหวังบ่อยครั้งซ้ำๆ จนเกินไป แต่สำหรับโค้ชและนักกีฬาอีกหลายๆ คนกลับยังคงเดินอยู่บนเส้นทางที่เลือกต่อไปได้ แม้พวกเขาจะยังไปไม่ถึงแชมป์ แต่ก็ได้สัมผัสกับความสำเร็จรูปแบบอื่นๆ ที่มีค่าไม่แพ้กัน โดยความสำเร็จเหล่านั้น ก็ได้แก่
1. ได้เห็นพัฒนาการของตัวเองที่ดีขึ้นกว่าเดิม
จริงอยู่ที่วันนี้เราอาจจะยังไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์ แต่บางทีแม้เราจะยังก้าวไปไม่ถึง “จุดสูงสุด” แต่เราก็ไม่ได้หยุดอยู่ที่เดิม หรือถอยหลังไปแย่ลงไปกว่าเดิม บนเส้นทางกีฬา หรือการเป็นโค้ชนักกีฬานั้น การที่เราได้เห็นตัวเราเอง ได้เห็นนักกีฬาของเรา วิ่งเร็วขึ้น แข็งแรงขึ้น ทำผลงานได้ดีขึ้น ทำสถิติ ทำอันดับคะแนน มี Performance ร่างกายที่ดีขึ้น เพียงเท่านี้ก็เพียงพอจะเรียกได้ว่า เป็นความสำเร็จแล้ว พัฒนาการเหล่านี้คือความสำเร็จรูปแบบหนึ่ง ที่เป็นขั้นบันไดที่จะพาเราก้าวสูงขึ้นไปจนกระทั่งถึงตำแหน่งแชมป์ได้ในที่สุด ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ตราบที่เรายังคงมองเห็นขั้นบันไดนี้ หรือถึงแม้สุดท้ายเราจะไปไม่ถึงตำแหน่งสูงสุดบนยอดนั้นจริงๆ การที่เราได้มองตัวเองยืนอยู่ในจุดที่ก้าวมาไกลมากๆ นั้น มันก็น่าจะสร้างความภูมิใจให้เราได้ไม่น้อยไปกว่ากันเลย
2. ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองบอกว่ารักและหลงใหล
คนที่เลือกเดินทางสายกีฬา ร้อยทั้งร้อยคงเลือกเพราะความหลงใหลและความชื่นชอบเป็นที่ตั้ง ดังนั้น การที่เรายังคงได้อยู่ ได้ทำ ได้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่เราเลือกเพราะรักแล้วนั้น มันก็น่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จได้อย่างไม่มีข้อกังขา และความรู้สึกที่เรารักและหลงใหลในสิ่งที่เราทำอยู่นี้แหละ คือหัวใจสำคัญที่จะผลักดันเราให้ก้าวต่อไปจนถึงตำแหน่งแชมป์ได้ในที่สุด ดังนั้น ในวันใดก็ตามที่เราเหนื่อยล้าจนรู้สึกว่าทนไม่ไหว ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมถึงยังไม่ประสบความสำเร็จสักที? ก็ขอให้เราลองถามตัวเองดูอีกทีว่า เรายังรักและมีความสุขที่ได้เดินอยู่บนเส้นทางนี้ไหม? ถ้าคำตอบคือใช่ นั่นก็คือการจุดไฟให้ตัวเรากลับมามีโอกาสอีกครั้ง และยังคงมีโอกาสอยู่เสมอกับการที่สักวันจะก้าวไปถึงจุดหมายปลายทาง
3. ได้มีร่างกายที่แข็งแรงไม่บาดเจ็บป่วยไข้
เป็นแชมป์ครั้งเดียวแต่สุดท้ายบาดเจ็บจนต้องออกจากวงการ อนาคตในสายอาชีพต้องสิ้นสุดลงเพียงแค่ข้ามคืน หากสุดท้ายลงเอยแบบนี้ บางทีความว่าแชมป์ก็ไม่มีความหมาย เพราะเอาจริงๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต่างก็อยากจะใช้ชีวิตอย่างยาวนานในสายอาชีพที่เราเลือก ดังนั้น บางทีความสำเร็จของนักกีฬา หรือการเป็นโค้ชนักกีฬา ก็คือ การที่ตัวเราทำให้ตัวเรา หรือนักกีฬาของเรา มีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่บาดเจ็บ และยังคงสามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่าง “มีอนาคต” บนเส้นทางที่เราต้องการ เพราะสุดท้ายแล้ว สุขภาพก็สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะกับอาชีพใด เนื่องจากหากปราศจากซึ่งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้วไซร้ ไม่ว่าจะตำแหน่งแชมป์ใด ความสำเร็จรูปแบบไหน ก็คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างที่ใจหวังแน่นอน
มีนักกีฬาและโค้ชนักกีฬาจำนวนไม่น้อยเลย ที่ขึ้นชื่อได้ว่าประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นที่ยอมรับในวงการกีฬาที่พวกเขาอยู่ ทั้งๆ ที่อาจจะไม่เคยสัมผัสถึงการเป็นแชมป์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะ “ความสำเร็จ” นั้น อาจไม่ได้วัดกันที่การไปยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดเสมอไป แต่วัดกันที่ผลงานที่ดีที่สม่ำเสมอ วัดกันที่วุฒิภาวะ ความประพฤติ และความดีงามด้านอื่นๆ ประกอบกันด้วย เราไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ตลอดไปก็ได้ แต่เราเป็นที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เราก็จะสามารถอยู่ในแถวหน้าของวงการได้เช่นกัน และสำหรับการเป็นโค้ช บางทีการเป็นที่ 1 ก็ไม่ทรงคุณค่าเท่ากับการที่เรา “เป็นที่พึ่ง” ให้กับผู้คนได้ ทั้งนี้ มันก็อาจต้องขึ้นอยู่กับว่า เรามองความสำเร็จของตัวเราเองเอาไว้เป็นรูปแบบใดด้วยกันแน่ ระว่าง เงินทอง ลาภยศ ชื่อเสียง หรือว่า ความพอใจ ที่รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและสร้างคุณค่าให้แก่ผู้อื่นได้