สำหรับใครก็ตามที่เลือกเดินอยู่ในสายกีฬา หรือชื่นชอบคลั่งไคล้ในการออกกำลังกายนั้น การทำความรู้จักกับ “Trigger Point” เอาไว้ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากเราปล่อยให้ร่างกาย มีจุด Trigger Point เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากๆ ล่ะก็ศักยภาพในการออกกำลังกาย ในการเล่นกีฬา ตลอดจนการใช้ชีวิตของเรา ก็จะลดน้อยตามลงไปด้วย ซึ่งหากเป็นแบบนั้น ก็คงยากที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ ดังนั้น วันนี้ เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Trigger Point กันให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายของการฝึกซ้อมร่างกายที่ตั้งใจไว้ให้มีมากยิ่งขึ้น
Trigger Point คืออะไร?
สรุปแบบเข้าใจแบบง่ายที่สุดเลยก็คือ Trigger Point นั้น เป็น “จุดที่กล้ามเนื้อมีอาการอักเสบ” ซึ่งจะหดตัวเป็นก้อน จนสามารถคลำพบได้ และถ้ากดไป ก็จะรู้สึกเจ็บปวด โดยที่ลักษณะพิเศษเพิ่มเติมก็คือ หากเราใช้ร่างกายแบบไม่ถูกต้องจนเกิดเป็นจุด Trigger Point แบบขั้นสุดล่ะก็ ความปวดร้าวที่จุดนั้นๆ จะสามารถแพร่กระจายไปยังจุดอื่นๆ ของร่างกายได้ด้วย แบบเป็นที่ไหล่ แต่กดนวดไปแล้วดันไปเจ็บที่คอ ที่ขมับได้เลยก็มี ทั้งนี้ Trigger Point นั้น เกิดจากการที่ “กล้ามเนื้อหดตัวเป็นเวลานานๆ” จนทำให้เลือดไม่ไหลเวียน ออกซิเจนในกล้ามเนื้อลดลง ซึ่งก็เป็นผลมาจากการออกกำลังกายด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง การใช้ร่างกายหนักเกินไป ไม่ว่าจะเป็นในด้านการกีฬา ฟิตเนส หรือแม้กระทั่ง การเดิน นอน นั่ง วิ่ง ยืน และการใช้ชีวิตต่างๆ
อันตรายแค่ไหน หากปล่อยให้ร่างกายมี Trigger Point?
ความร้ายกาจของ Trigger Point นั้น นอกจากความเจ็บปวด ปวดเมื่อยแล้ว ผลเสียที่เราทำให้ร่างกายมี Trigger Point ก็คือ เราจะไม่สามารถออกแรง และแสดงศัยภาพร่างกายของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ยกขา ยกแขน ยกไหล่ไม่สะดวก งอสะโพก ติดขัด รู้สึกตึง ปวด เมื่อย ฯลฯ ซึ่งในภาพรวมก็คือ ทำให้การเคลื่อนไหวของเราไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น หรือปวดเมื่อยเร็วกว่าปกติ แบบเคลื่อนไหวไม่เท่าไรก็ปวด ก็ล้า ซึ่งสำหรับนักกีฬาแล้ว การเคลื่อนไหวที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำมาซึ่งความพ่ายแพ้และอาการบาดเจ็บได้ทุกเมื่อ ไม่เพียงเท่านั้น หากเราปล่อยให้มี Trigger Point เกิดขึ้นและไม่ได้พยายามรักษา ปล่อยเอาไว้แบบยาวนานเรื้อรัง ก็อาจถึงขั้นทำให้โครงสร้างของร่างกายผิดเพี้ยนได้เลยทีเดียว อาทิ ไหล่ไม่เท่ากัน ขาไม่กัน หรือที่คุ้นเคยกันแบบร้องอ๋อ ก็คือ “หลังค่อม หลังงอ” นั่นเอง
ทำอย่างไร ให้ Trigger Point หายไป?
โดยทั่วไปแล้วแบบง่ายที่สุดที่จะทำให้เราจัดการเอา Trigger Point ออกจากร่างกายได้ ก็คือ การไปพบนักกายภาพบำบัด เข้ารับการนวด ยืดเหยียด เพื่อสลายให้ Trigger Point หายไป ส่วนวิธีอื่นๆ ถ้าเป็นแบบรุนแรงจริงๆ ก็อาจต้องพึ่งยาเข้าช่วยด้วย โดยที่ทำเองแบบมั่วๆ ก็ไม่ได้นะครับ เพราะอาจผิดพลาดได้ ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีกว่า และหลังจากที่หายแล้ว ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี ใช้ร่างกายอย่างถูกต้อง ออกกำลังกายอย่างถูกท่าทาง เหมาะสม ไม่หักโหม ไม่ทำอะไรเกินตัว และทำ Stretching ยืดเหยียดร่างกายเป็นประจำ ปรับพฤติกรรมท่าทางการยืน เดิน นั่ง นอน วิ่ง การใช้ชีวิตให้ถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้ลดโอกาสในการเกิด Trigger Point ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้ง่ายๆ