ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยวิกฤตโรคระบาด ฝุ่น PM 2.5 ตลอดจนปัญหาการจราจรที่ทำให้หัวใจเหนื่อยหน่าย จึงส่งผลทำให้เป้าหมายในการออกกำลังกายของใครหลายๆ คน ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะออกไปฟิตเนสไม่ได้ ออกไปวิ่งไม่สะดวก ทำให้วินัยในการฝึกซ้อมเสียไปในที่สุด นั่นเองที่ทำให้ “การออกกำลังกายที่บ้าน” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ที่จะทำให้เรายังคงเดินอยู่ได้บนเส้นทางที่มุ่งไปสู่เป้าหมายของการพัฒนาศักยภาพร่างกายตัวเองให้สำเร็จ แต่ทั้งนี้ การจะออกกำลังกายที่บ้านให้ได้ผลเหมือนไปออกกำลังกายที่ยิมนั้น ก็ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญหลายข้อด้วยกัน โดยมีแนวทาง ดังต่อไปนี้
1. ต้องมีการจัดตารางการฝึกซ้อมอย่างชัดเจน
ตารางการฝึกซ้อม ตารางการออกกำลังกาย เคยสำคัญอย่างไรกับเราตอนที่ไปฟิตเนส ครั้นมาออกกำลังกายที่บ้านก็ยิ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะธรรมชาติของคนเรานั้น เห็นหมอนเมื่อไร เห็นเตียงเมื่อใด เห็นคอมพิวเตอร์ ทีวีอยู่ตรงไหน ก็มักจะใจอ่อน แล้วหันไปหาความบันเทิงก่อนสิ่งอื่นใดเสมอ ดังนั้น หากคิดจะออกกำลังกายที่บ้านให้ได้ผล ก็ต้อง “สร้างตารางการฝึกซ้อมอย่างชัดเจน” โดยต้องกำหนดไปเลยว่า จะฝึกอะไร อย่างไร ตอนกี่โมง เป็นเวลาเท่าไร แล้วก็แปะตารางฝึกซ้อมนั้นไว้ให้เราเห็นได้ชัดได้ง่ายที่สุด เพื่อให้เราไม่หลุดวินัย และสามารถออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ต้องคุมเรื่องอาหารการกินมากกว่าปกติ 2 เท่า
ต่อให้ออกกำลังกายหนักแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้ควบคุมอาหาร ไม่ได้มีวินัยในการกินที่ดีมากพอ ก็ไม่มีทางบรรลุเป้าหมายในการฝึกซ้อมได้แน่ๆ ยิ่งกับการออกกำลังกายที่บ้าน ใกล้ครัว ใกล้ตู้เย็น ใกล้ของกินด้วยแล้ว ยิ่งทำให้โอกาสในการล้มเหลวนั้นมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น หากคิดจะออกกำลังกายที่ได้ให้ได้ผล เราจึงต้องวางแผนเรื่องโภชนาการอาหารอย่างเคร่งครัด มีวินัยในการกิน จัดตารางการรับประทานอาหารอย่างเข้มข้นกว่าปกติ เพื่อให้โอกาสในการเห็นผลลัพธ์ที่หวังนั้น เป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
3. ต้องใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์
กับการออกกำลังกายที่บ้านให้ได้ผลนั้น เราสามารถทำได้โดยการ “เทรนกับโค้ช” ผ่านทางอินเตอร์เน็ตก็ได้ หากรู้สึกว่าถ้าไม่มีใครคอยกระตุ้นแล้วจะทำให้หมดแรงบันดาลใจ ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายวิธีที่ทำให้เราและโค้ช เห็นหน้า เห็นท่าทาง กันได้ และออกกำลังกายไปพร้อมกันได้ หรือในกรณีที่ไม่ได้มีโค้ช ไม่มีเทรนเนอร์ส่วนตัว ก็ยังสามารถ “ค้นหาเทคนิคการออกกำลังกาย” จากอินเตอร์เน็ต ทางยูทูป ได้หลากหลาย ทำให้เราออกกำลังกาย ฝึกซ้อมได้อย่างถูกต้อง และยังสามารถหาเทคนิคดีๆ แปลกใหม่ ฝึกได้อย่างไร้ขีดจำกัดอีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มสีสัน เพิ่มความสนุก ความท้าทายให้กับการฝึกซ้อมได้เป็นอย่างดี อันนำมาซึ่งโอกาสความสำเร็จที่มากยิ่งขึ้น
4. ใช้อุปกรณ์ในการช่วยฝึกเพิ่มเติม
การที่เราคุ้นเคยกับการออกกำลังกายด้วยเครื่องเล่นต่างๆ ที่ยิม อาจทำให้การออกกำลังกายที่บ้านของเราดูไม่น่าตื่นเต้น ดูเหี่ยวเฉาจนทำให้ไม่มีไฟในการฝึกซ้อม ดังนั้น เพื่อให้เป็นการสร้างสภาพการฝึกซ้อมที่คล้ายกันกับการฝึกที่ฟิตเนสได้มากที่สุด เราสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ฝึกซ้อมต่างๆ เข้ามาช่วยสร้างสีสันในการฝึกของเราได้ อาทิ Pro Bands ยางเพิ่มแรงต้าน Core Wheels อุปกรณ์ล้อเลื่อนสำหรับบริหารความแข็งแรงกล้ามเนื้อส่วนบน หรือ Jump Rope เชือกกระโดดสำหรับฝึกความเร็วและความคล่องตัว เป็นต้น ซึ่งก็ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะใช้อุปกรณ์เหล่านี้ไม่เป็น เพราะเราสามารถที่จะค้นหาวิธีการใช้อุปกรณ์ฝึกซ้อมต่างๆ ได้ในโลกออนไลน์ จึงทำให้มั่นใจได้ว่า การออกกำลังกายในบ้านนั้น จะไม่น่าเบื่อ และสนุกมากพอที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะออกกำลังกายที่ยิม หรือที่บ้าน ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่แตกต่างกันสักเท่าไร หากว่าหัวใจของเรามีความมุ่งมั่น และตั้งใจมากพอที่จะฝึกซ้อมอย่างมีวินัยจนกว่าจะไปถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้ อย่างไรก็ดี การออกไปฝึกที่ยิมนั้น ถือเป็นแนวทางที่แรงกระตุ้นได้ดีกว่า เพราะเป็นการพาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อกับการฝึกซ้อมมากกว่า ต่างกันกับการฝึกที่บ้าน ที่ร่างกายและจิตใจเราต่างก็คุ้นเคยว่า “เป็นสถานที่ของการพักผ่อน” ดังนั้น หากจะถามว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด นอกเหนือจากปัจจัยที่กล่าวมาที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จจากการฝึกซ้อมออกกำลังกายที่บ้านได้นั้น คำตอบก็คือ “ความมุ่งมั่นตั้งใจ” ของตัวผู้ฝึกซ้อมเอง โดยถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนพอ และเป้าหมายนั้นสำคัญกับเรามากพอล่ะก็ โอกาสจะประสบความสำเร็จจากการออกกำลังกายที่บ้านก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม